การร้อยไหมเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย แต่คุณเคยสงสัยไหม ว่าการร้อยไหมมีกี่แบบ กี่ชนิดกันแน่ ? แล้วทุกประเภทที่มีอยู่นั้น ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด
ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประเภทและชนิดของการร้อยไหมที่หลากหลาย เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของคุณ
ไหมร้อยหน้ามีกี่ประเภท
ในปัจจุบันนี้เทคนิคการร้อยไหม เป็นที่นิยมมากเนื่องด้วยเป็นวิธีการที่เห็นผลการยกกระชับที่รวดเร็วหลังการทำหัตถการทันทีและมีการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง โดยที่ไม่ต้องรอการพักฟื้น ซึ่งไหมร้อยหน้าจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท
1. ไหมไม่ละลาย
เป็นเส้นไหมที่นิยมมากในสมัยก่อนที่ทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น ทองคำ, พลาสติก เป็นต้น ซึ่งวัสดุเหล่านี้ดูเหมือนจะมีความคงทนที่สูง แต่ก็มีข้อเสียที่ไม่สามารถ ผ่านเครื่อง CT-scan, เครื่อง MRI หรือ เครื่อง X-ray ได้เพราะไม่สามารถทนความร้อนสูงได้ ซึ่งอาจส่งผลทำให้บริเวณที่มีการร้อยไหมอาจบิดเบี้ยวหรือหย่อนคล้อยลงได้ และที่สำคัญวัสดุเหล่านี้ไม่สามารถละลายได้เองตามกระบวนการสลายของร่างกาย ทำให้ในปัจจุบันไม่นิยมนำมาร้อยกันแล้ว
ไหมละลาย
เส้นไหมที่ผลิตจากวัสดุที่สามารถสลายได้ตามกลไกของร่างกาย ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้างที่จะหลงเหลือในร่างกายได้ โดยวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิต เช่น Polydioxanone (PDO), Poly-L-Lactic acid (PLLA), Polycaprolactone (PCL) เป็นต้น ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดก็จะมีอัตราการสลายและความคงทนที่แตกต่างกันออกไป
ไหม PDO มีสีน้ำเงินอมม่วง มีความยืดหยุ่นที่สูง และมีอายุเฉลี่ยในการสลายประมาณ 6-8 เดือน
ไหม PLLA มีความแข็งมาก สีใส และมีอายุเฉลี่ยในการสลายประมาณ 12 เดือน
ไหม PCL มีสีขาว มีความแข็งแต่ก็ยืดหยุ่นได้ และมีอายุเฉลี่ยในการสลายประมาณ 12-24 เดือน
ลักษณะของเส้นไหม มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
หากคุณกำลังสงสัยว่าร้อยไหมมีกี่แบบ คำตอบคือมีหลากหลายประเภทที่แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับ เพิ่มวอลลุ่มหรือฟื้นฟูผิว ดังนั้นหากถามว่าร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด ก็จะขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข ควบคู่ไปกับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง ดังนี้
1. ไหมแบบเรียบ
ไหมแบบเรียบถือเป็นตัวเลือกพื้นฐานที่นิยมใช้ในการร้อยไหมเพื่อฟื้นฟูผิว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นการร้อยไหม เพราะให้ผลลัพธ์ที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ ซึ่งไหมประเภทนี้แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ได้แก่
ไหมเรียบตรง
ไหมเรียบตรง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวแบบไม่รุนแรง ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ไม่มีเงี่ยง ทำให้การร้อยไหมประเภทนี้มีความอ่อนโยนต่อผิว เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผิวในระดับลึก กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น
ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวและรูขุมขนกว้าง? ไหมเรียบตรงคือคำตอบที่เหมาะสม เพราะการที่ไม่มีเงี่ยงทำให้ไหมสามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอใต้ผิวหนัง ส่งผลให้เกิดการฟื้นฟูผิวได้อย่างทั่วถึง
ไหมเกลียว
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาว่า การร้อยไหมแบบไหนดีที่สุดสำหรับการเพิ่มความอิ่มเอิบให้กับผิว ไหมเกลียวคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยลักษณะพิเศษที่พันเป็นเกลียวรอบเข็ม ทำให้สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากกว่าไหมเรียบตรง และยังช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูได้อย่างเป็นธรรมชาติ
2. ไหมเงี่ยง
ไหมเงี่ยงช่วยยกกระชับผิว ด้วยนวัตกรรมการออกแบบที่มีเงี่ยงยึดเกาะกับผิวหนัง ทำให้สามารถยกและกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กระเปาะแก้มหรือร่องแก้มลึก โดยไหมเงี่ยงสามารถ แบ่งออกได้อีก 2 ประเภท ดังนี้
ไหมเงี่ยงบาก
นวัตกรรมไหมเงี่ยงบากถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ที่สร้างเงี่ยงบนผิวของเส้นไหม ทำให้เกิดการยึดเกาะกับผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีรูปแบบการเรียงตัวที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละแบบเหมาะกับการแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกัน เช่น
- ไหมเงี่ยงบาก Uni-direction เงี่ยงเรียงตัวไปในทิศทางเดียว
- ไหมเงี่ยงบาก Bi-direction เงี่ยงเรียงตัวกันสองทิศทาง สวนทางกัน
- ไหมเงี่ยงบาก 3D cog ลักษณะเงี่ยงเรียงตัวสามมิติ 360 องศาคล้ายหนามกุหลาบ
ไหมเงี่ยงหล่อ
ไหมเงี่ยงหล่อมีลักษณะเงี่ยงที่มีความแข็งแรง สามารถยึดเกาะกับผิวได้ดีกว่าไหมเงี่ยงบาก
คือคำตอบที่น่าสนใจ ด้วยกระบวนการผลิตที่หล่อเงี่ยงขึ้นมาพร้อมกับตัวเส้นไหม ทำให้ได้เงี่ยงที่แข็งแรงและชัดเจน สามารถยึดเกาะกับผิวได้ดีกว่าไหมเงี่ยงบาก ซึ่งสามารถแบ่งออกได้อีก 3 แบบ ดังนี้
- ไหมเงี่ยงหล่อ Carving cog เงี่ยงรูปทรงพิเศษ ด้วยฐานสามเหลี่ยมที่มีความทึบตัว คล้ายกับร่มขนาดจิ๋วที่เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบตามแนวของเส้นไหม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อ
- ไหมเงี่ยงหล่อ Molding cog มาพร้อมกับเงี่ยงที่มีความคมและแข็งแรง ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายฟันเลื่อยหรือฟันปลาฉลาม ช่วยให้สามารถยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาหย่อนคล้อยชัดเจน
- ไหมเงี่ยงหล่อ 3D Molding cog เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่พัฒนาให้มีเงี่ยงขนาดใหญ่พิเศษ โดดเด่นด้วยการจัดวางเงี่ยงแบบ 360 องศารอบแกนกลางของเส้นไหม ลักษณะคล้ายหนามกุหลาบ ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้มากกว่า ส่งผลให้การยกกระชับมีประสิทธิภาพสูงสุด
3. ไหมกรวย
สำหรับการยกกระชับใบหน้า ไหมกรวยอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ด้วยการออกแบบเงี่ยงแบบกรวย 3 มิติที่มีขนาดใหญ่กว่าไหมแบบเงี่ยงทั่วไป ทำให้สามารถเกาะยึดกับผิวได้ดียิ่งขึ้นและลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อได้มากกว่า
4. ไหมโครงตาข่าย
เมื่อถามว่าร้อยไหมแบบไหนดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบครบวงจร ไหมโครงตาข่ายมาพร้อมกับเงี่ยง 2 ชั้นที่ผสมผสานระหว่างเงี่ยงไหม 3 มิติและโครงตาข่ายรอบตัวไหม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมทั้งการยกกระชับและการฟื้นฟูผิว
ลักษณะของเข็มที่ใช้ร้อยไหมแต่ละชนิด
หากสงสัยว่า การร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า การที่จะนำส่งเส้นไหมเข้าสู่ร่างกายของเราได้นั้น ก็ต้องพูดถึงเข็มที่นำมาใช้ในการร้อยไหมแต่ละชนิด ซึ่งมีความความจำเพาะ และเหมาะสมกันออกไปในแต่ละบริเวณ ดังนี้
เข็มแบบหัวแหลม (S-type)
มีความสามารถในการตัดผ่านเนื้อเยื่อได้ดีมาก แต่ก็อาจทำให้เกิดบาดแผล และเลือดออกภายในจนเกิดอาการช้ำได้ง่าย
เข็มแบบกึ่งทู่ (L-type)
มีความสามารถในการทะลุผ่านเนื้อเยื่อได้ดี อาจมีการทำให้เลือดออกได้บ้างส่งผลให้เกิดการเขียว ช้ำ ได้น้อย
เข็มแบบทู่ (W-type)
มีความสามารถในการทะลุผ่านเนื้อเยื่อได้ดี แทบจะไม่ทำให้เกิดการเลือดออก จนเขียว ช้ำจากภายในเลยจึงทำให้เป็นที่นิยมมาก
เข็มแบบยู (U-cannula)
เป็นหัวเข็มที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในบริเวณที่บอบบาง เช่น รอบดวงตา สามารถทะลุผ่านเนื้อเยื่อได้ดี แทบจะไม่ทำให้เกิดการเลือดออก จนเขียว ช้ำจากภายใน
เข็มแบบเอ (A-cannula)
เป็นหัวเข็มที่ถูกออกแบบมาแบบพิเศษ เพื่อใช้กับการใช้บริเวณจมูกโดยเฉพาะ ทะลุผ่านเนื้อเยื่อได้ดี และลดความเสียหายต่อเส้นเลือดบริเวณนั้น จึงเกิดอาการเขียว ช้ำ ได้น้อย
ประโยชน์ของการร้อยไหม มีอะไรบ้าง
การร้อยไหมนั้นที่จริงแล้วมีประโยชน์ที่มากมายหลายด้านมากกว่าที่คนเข้าใจกัน เพราะลักษณะของเส้นไหมที่ถูกผลิตขึ้นมาก็เพื่อประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
การร้อยไหมเพื่อยกกระชับ ปรับรูปหน้า V
จะใช้เส้นไหมที่มีขนาดใหญ่และมีเงี่ยง (Cog thread) เพื่อการเหนี่ยวรั้ง รับน้ำหนักของเนื้อเยื่อ และล๊อคไม่ให้เนื้อเยื่อที่ทำการดึงยกกระชับหลุดออกได้ง่าย โดยจะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังร้อยเสร็จ และจะมีการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินตามแนวการร้อยไหมอีกด้วย
การร้อยไหมเพื่อกระตุ้นหน้าใส
จะใช้ไหมเส้นเล็ก (Mono thread) ผิวเรียบที่มีส่วนผสมในการปรับผิวขาว จึงทำให้ผลลัพธ์ที่นอกจากช่วยการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนแล้วยังช่วยทำให้บริเวณที่ร้อยมีความขาวเพิ่มขึ้น โดยจะเห็นผลลัพธ์หลังการร้อย 2-3 สัปดาห์
การร้อยไหมจมูกเพื่อให้สันคมชัด
จะใช้ไหมเส้นใหญ่ หรือไหมเส้นเล็กหลายเส้นเพื่อการเติมเต็มสันจมูกทันทีหลังการร้อยแล้วจะมีการสร้างคอลลาเจนตามแนวที่มีการร้อย
การร้อยไหมจมูกเพื่อให้สันคมชัด
จะใช้ไหมเส้นใหญ่ หรือไหมเส้นเล็กหลายเส้นเพื่อการเติมเต็มสันจมูกทันทีหลังการร้อยแล้วจะมีการสร้างคอลลาเจนตามแนวที่มีการร้อย
การร้อยไหม ชนิดไหนยกกระชับได้ดีที่สุด
ไหมที่มีเงี่ยง เพราะไหมลักษณะนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อการดึง เหนี่ยวรั้ง ล๊อคและการรับน้ำหนักโดยเฉพาะ จึงทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดจากไหมชนิดนี้ยกกระชับได้ดีที่สุด
ไหมชนิดไหนนิยมใช้ร้อยหน้ามากที่สุด
ถ้าพูดถึงความนิยมมากที่สุดในตลาดการร้อยไหมนั้นมักจะเป็น การร้อยไหมเพื่อปรับรูปหน้า เพราะอายุที่มากขึ้น และมลภาวะที่รับมาในทุกวันทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยลงมา ผลลัพธ์จากการร้อยไหมปรับรูปหน้าโดยใช้ไหมแบบเงี่ยงจึงตอบโจทย์มากที่สุดเพราะช่วยให้ดูเด็กลงและปรับรูปหน้าทรง V ได้ตามค่านิยม แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหา และความต้องการของลูกค้าด้วยว่าเรามีปัญหาตรงไหนก็แก้ไขตามปัญหานั้นๆ เช่น มีร่องลึกมากก็ใช้ไหมแบบสกูลมาเติมเต็ม, ใบหน้าหมองคล้ำก็ใช้เส้นไหมขนาดเล็กที่มีการเติมสารเพิ่มความขาวลงไป, มีปัญหาที่สันจมูกไม่คมก็ใช้ไหมเส้นใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อการยกสันจมูก หรือมีปัญหาหนังตาตกใช้ไหมแบบมีเงี่ยงที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกกระชับและเก็บรอยข้างดวงตาได้
การยกกระชับของไหม ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
การยกกระชับของไหมนั้น จะดีแค่ไหนจะขึ้นอยู่กับขนาดของเส้นไหม ว่ามีความใหญ่เพียงพอที่จะรับน้ำหนักของเนื้อเยื่อที่ยกขึ้นไปได้หรือไม่ และเงี่ยงที่ถูกออกแบบมีเพื่อการโกยและเหนี่ยวรั้ง รวมถึงการล๊อคเนื้อเยื่อขึ้นไปเก็บซึ่งก็ต้องดูว่าเงี่ยงนั้นมีขนาดใหญ่เพียงพอหรือไม่ และในปัจจุบันมีการผลิตไหมที่เป็นรูปแบบของเงี่ยงอยู่ 2 แบบ
1. ไหมแบบตัด
ไหมแบบนี้จะถูกผลิตออกมาเป็นแบบเส้นเรียบก่อนแล้วจึงนำมาตัดเป็นเงี่ยงด้วยเลเซอร์จึงทำให้ความหนาของเส้นไหมเล็กลงตามไปด้วยแต่ก็จะมีร่องที่เกิดจากการตัดมาช่วยเหนี่ยวรั้งเนื้อเยื่อที่ยกขึ้นไปได้
2. ไหมแบบหล่อ
ไหมแบบนี้ถูกผลิตโดยการสร้างแม่พิมพ์ขึ้นมาเป็นรูปแบบที่ต้องการก่อนที่จะเติมวัสดุที่ต้องการลงไปในแม่พิมพ์ขึ้นรูปแบบไหมขึ้นมาจึงทำให้ไม่สูญเสียพื้นที่ของเส้นไหมไปกับการตัดเพื่อให้เกิดเงี่ยง
นอกจากนี้ยังรวมถึงเทคนิคและความเชี่ยวชาญของแพทย์ แต่ละบุคคลด้วยว่าถนัดการร้อยไหมรูปแบบไหน เพราะจะมีการร้อยไหมที่แตกต่างกันออกไป
รีวิวการร้อยไหม Before – After
7.1 การร้อยไหมเพื่อยกกระชับ ปรับรูปหน้า V
7.2 การร้อยไหมคอลลาเจนและเพิ่มความขาว
การร้อยไหมจมูก