ร้อยไหม หัตถการยอดนิยมที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าให้ดูเรียวสวยและอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด แม้จะเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่หลายคนยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับจำนวนเส้นไหมที่เหมาะสม โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่า “ยิ่งร้อยไหมเยอะ หน้ายิ่งตึง” นั้นจริงแค่ไหน? ในบทความนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า จำนวนเส้นไหมส่งผลต่อผลลัพธ์อย่างไร ควรร้อยไหมกี่เส้นดี จึงจะเห็นผลอย่างชัดเจน พร้อมเจาะลึกข้อดี ข้อควรระวังและข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจร้อยไหม เพื่อให้คุณเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจ และได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจมากที่สุด
ร้อยไหมกี่เส้นดี?
คำถามที่ว่า ร้อยไหมกี่เส้นดี นั้นเป็นคำถามที่ไม่สามารถให้คำตอบเป็นตัวเลขที่ตายตัวได้สำหรับทุกคน เนื่องจากจำนวนเส้นไหมที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่ต้องการร้อยไหม สภาพปัญหาผิว ความหย่อนคล้อยของผิว รวมถึงเทคนิคและชนิดของไหมที่แพทย์เลือกใช้
ดังนั้น การประเมินจำนวนเส้นไหม ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะพิจารณาจากโครงสร้างใบหน้าและความต้องการของคนไข้เป็นหลัก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
จำนวนเส้นไหม ขึ้นอยู่กับอะไร?
จำนวนเส้นไหมที่ใช้ในการร้อยไหมนั้น ไม่ใช่ยิ่งเยอะยิ่งดีเสมอไป แต่เป็นการเลือกใช้จำนวนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยแพทย์จะพิจารณาจากปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้
บริเวณที่ต้องการร้อยไหม
แต่ละส่วนของใบหน้าและลำคอต้องการจำนวนเส้นไหมที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น
- ร้อยไหมยกแก้ม/กรอบหน้า อาจต้องใช้จำนวนเส้นไหมที่ค่อนข้างเยอะกว่าบริเวณอื่น เนื่องจากเป็นพื้นที่กว้างและต้องการแรงดึงที่มากพอสมควรเพื่อให้เห็นผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจน โดยทั่วไปอาจใช้ตั้งแต่ 2 – 3 เส้นต่อข้าง ขึ้นอยู่กับความหย่อนคล้อย
- ร้อยไหมร่องแก้ม/ร่องน้ำหมาก อาจใช้จำนวนเส้นไหมน้อยกว่า โดยเน้นการเติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจนเฉพาะจุด อาจใช้ 2 – 4 เส้นต่อข้าง
- ร้อยไหมยกหางตา เป็นบริเวณที่บอบบาง มักใช้ไหมเส้นเล็กและจำนวนไม่มากนัก อาจอยู่ที่ประมาณ 4 เส้นต่อข้าง เพื่อลดริ้วรอยเล็ก ๆ และเพิ่มความกระชับ
- ร้อยไหมเหนียง ก็ต้องการจำนวนเส้นไหมที่มากพอสมควรคล้ายกับการยกแก้ม เพื่อแก้ปัญหาเหนียงและความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณลำคอ
ปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข

ลักษณะของปัญหาผิวก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการกำหนดจำนวนเส้นไหม เช่น หากต้องการเน้นการยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น ปรับกรอบหน้าให้คมชัด อาจต้องใช้ไหมเงี่ยงและจำนวนเส้นที่มากขึ้น เพื่อให้เกิดแรงดึงที่แข็งแรง
หรือหากปัญหาหลักของคุณ คือริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวขาดความยืดหยุ่น ต้องการให้ผิวฟูขึ้น อาจเลือกใช้ไหมเส้นเล็ก ๆ หรือไหม K2 Lifting และจำนวนเส้นอาจจะไม่ต้องมากเท่าการเน้นยกกระชับ แต่จะเน้นการวางไหมในตำแหน่งที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี
ความหย่อนคล้อยของผิว
ระดับความหย่อนคล้อยของผิวเป็นตัวแปรสำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยหรือผิวเริ่มมีสัญญาณความหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย อาจใช้จำนวนเส้นไหมไม่มากนักก็จะเห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจแล้ว แต่ในกรณีที่ผิวที่ความหย่อนคล้อยค่อนข้างมากแล้ว อาจต้องใช้จำนวนเส้นไหมเพิ่มขึ้น ในบางคน การร้อยไหมอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แพทย์อาจแนะนำให้ทำหัตถการอื่นร่วมด้วย อย่างหัตถการยกกระชับ ในกลุ่ม HIFU หรือ Ulthera เพื่อเสริมผลลัพธ์ หรือในบางกรณีอาจแนะนำการผ่าตัดดึงหน้าหากการร้อยไหมไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและปัญหาอย่างละเอียด จะช่วยให้ทราบว่าควรจะร้อยไหมกี่เส้นดี ถึงจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ร้อยไหม ไม่เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สารที่ใช้ในการร้อยไหม หรือแพ้ยาชา
- ผู้ที่มีการติดเชื้อหรืออักเสบบริเวณผิวหนังที่จะทำการร้อยไหม
- ผู้ที่เป็นโรคเลือดออกง่าย เลือดหยุดยาก หรือรับประทานยาละลายลิ่มเลือด (ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหยุดยาก่อนทำ)
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวร้ายแรงที่ยังควบคุมอาการไม่ได้ เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้ โรคความดันโลหิตสูงมาก
- ผู้ที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (SLE) หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันอื่นๆ
- ผู้ที่มีความคาดหวังต่อผลลัพธ์ที่ไม่สมจริง
- ผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมากเกินไป ซึ่งอาจต้องพิจารณาการผ่าตัดดึงหน้าแทน
- ผู้ที่มีผิวบางมาก หรือผิวหนังอักเสบเรื้อรังบริเวณใบหน้า
ร้อยไหมแล้วหน้าตกไว เกิดจากอะไร

การที่ผลลัพธ์หลังร้อยไหมอยู่ได้ไม่นาน หรือหน้ากลับมาตกไวกว่าที่ควร อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
- ความเชี่ยวชาญของแพทย์ ประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ในการวางตำแหน่งไหม การเลือกชนิดไหมและการดึงไหม มีผลอย่างมากต่อผลลัพธ์และความคงทน หากวางไหมผิดตำแหน่งหรือดึงไม่ถูกเทคนิค อาจทำให้ไหมเคลื่อนหรือประสิทธิภาพในการยกกระชับลดลง
- ชนิดและคุณภาพของเส้นไหม ไหมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือชนิดของไหมที่ไม่เหมาะสมกับปัญหาผิวและความต้องการ อาจทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจว่า ร้อยไหมมีกี่แบบ เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิว
- จำนวนเส้นไหมไม่เพียงพอ หากใช้จำนวนเส้นไหมน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับความหย่อนคล้อยของผิว แรงยกอาจไม่เพียงพอ ทำให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนและอยู่ได้ไม่นาน
- วิธีการดูแลตัวเองหลังทำไม่ถูกต้อง การละเลยคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลตัวเองหลังร้อยไหม เช่น การแสดงสีหน้าแรง ๆ การนวดหน้าแรง ๆ ในช่วงแรก หรือการโดนความร้อนจัด อาจส่งผลต่อการเกาะเกี่ยวของไหมและทำให้เห็นผลสั้นลง
- สภาพผิวและปัจจัยส่วนบุคคล อายุ ไลฟ์สไตล์ การสูบบุหรี่ การเผชิญแสงแดดเป็นประจำและกระบวนการเสื่อมของผิวตามธรรมชาติของแต่ละบุคคล ก็มีผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์เช่นกัน
- การย่อยสลายของเส้นไหม ไหมละลายจะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นกระบวนการปกติ แต่หากเลือกชนิดไหมที่สลายตัวเร็วเกินไปสำหรับสภาพผิวบางประเภท ก็อาจทำให้หน้าตกไวได้เช่นกัน จึงแนะนำให้ทำซ้ำ
วิธีการดูแลตัวเองหลังร้อยไหม ให้หน้ายกกระชับนานขึ้น
เพื่อให้ผลลัพธ์การร้อยไหมอยู่ได้นานและใบหน้ายกกระชับอย่างต่อเนื่อง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าแรง ๆ ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก ควรงดการนวดหน้า ขัดหน้าหรือการกระทำใด ๆ ที่รุนแรงต่อผิวบริเวณที่ร้อยไหม
- งดการอ้าปากกว้าง ๆ หรือแสดงสีหน้าแรง ๆ ในช่วง 3 – 5 วันแรก เพื่อป้องกันไม่ให้ไหมเคลื่อนที่
- ประคบเย็น ในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรกหลังทำ เพื่อช่วยลดอาการบวมหรือช้ำ (ถ้ามี)
- นอนหมอนสูง ในช่วง 2 – 3 คืนแรก เพื่อช่วยลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น การซาวน่า หรือการทำเลเซอร์ที่ให้ความร้อนสูงบริเวณใบหน้าประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารหมักดอง ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก เพราะอาจกระตุ้นการอักเสบหรืออาการบวมได้
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง หากแพทย์ให้ยาแก้อักเสบ ลดบวมหรือยาแก้ปวด ควรรับประทานตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดที่เป็นตัวการทำร้ายผิวและคอลลาเจน

สรุปบทความ
ร้อยไหมเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่หากถามว่า ร้อยไหมกี่เส้นดีนั้น ไม่มีคำตอบที่ตายตัว ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะบุคคล เช่น บริเวณที่ต้องการทำ ปัญหาผิว ความหย่อนคล้อยและการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น การเลือกจำนวนเส้นไหมที่เหมาะสมจึงเป็นหน้าที่ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและดูเป็นธรรมชาติ ก่อนตัดสินใจจึงควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์ รวมถึงทำความเข้าใจว่าการร้อยไหมอาจไม่เหมาะกับทุกคน และควรทราบถึงข้อควรระวังและวิธีการดูแลตัวเองหลังทำ เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนานและใบหน้ายกกระชับสมดังใจ