การปรับรูปหน้าเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมของคนไทยในปัจจุบัน เนื่องจากใบหน้าที่ได้สัดส่วนสวยงามช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจได้เป็นอย่างดี แต่หลายคนอาจกังวลเรื่องการผ่าตัดศัลยกรรม ปัจจุบันมีนวัตกรรมความงามมากมายที่ช่วยปรับโครงสร้างและรูปหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นตัวเร็ว และมีความปลอดภัยสูง มาทำความรู้จักกับวิธีปรับรูปหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดกัน
ปรับรูปหน้า คืออะไร
การปรับรูปหน้า คือการแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ เช่น โครงหน้าไม่สมมาตร คางสั้น แก้มตอบ กรามใหญ่หรือหน้าบาน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความสมดุลให้กับใบหน้า ทำให้กรอบหน้าชัดเจนและดูเรียวขึ้น
5 วิธีปรับรูปหน้า มีอะไรบ้าง
การปรับรูปหน้าในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี แต่ละวิธีมีจุดเด่นและความเหมาะสมกับปัญหาที่แตกต่างกัน มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่สามารถช่วยให้คุณมีใบหน้าที่สวยได้ดั่งใจ
1. ร้อยไหมปรับรูปหน้า
การร้อยไหมเป็นวิธีปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยใช้ไหมละลายที่มีเงี่ยงพิเศษสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เงี่ยงเหล่านี้จะทำหน้าที่ยึดและดึงผิวที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ใบหน้าเรียวกระชับ กรอบหน้าชัดเจน และสามารถปรับรูปทรงตา ยกมุมปากหรือแม้แต่เสริมจมูกได้อีกด้วย
2. เมโสแฟตปรับรูปหน้า
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณแก้มและเหนียง โดยใช้สารสกัดจากธรรมชาติเข้าไปในชั้นไขมันโดยตรง เพื่อสลายไขมันส่วนเกินและปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและได้ผลดี ช่วยให้แก้มเล็กลง ใบหน้าดูเรียวสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
3. ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ด้วยสาร Hyaluronic Acid (HA) เป็นวิธีปรับรูปหน้าที่ให้ผลลัพธ์ทันที สามารถเติมเต็มได้หลากหลายจุด เช่น เพิ่มความยาวให้คาง เติมแก้มที่ตอบหรือแก้ไขร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและอ่อนเยาว์ขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและชนิดของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
4. ฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า
โบท็อกก็เป็นทางเลือกสำหรับการปรับรูปหน้าให้เรียว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ การฉีดโบท็อกจะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อกรามชั่วคราว ทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าเรียวขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการยกกระชับกรอบหน้าได้อีกด้วย
5. Ulthera และ Thermage ปรับรูปหน้า
เทคโนโลยี HIFU, Ulthera และ Thermage เป็นนวัตกรรมการปรับรูปหน้าด้วยคลื่นพลังงาน โดย Ulthera และ HIFU ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้น SMAS ทำให้ผิวกระชับและใบหน้าเรียวขึ้น ส่วน Thermage เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยร่วมกับมีไขมันมาก สามารถยกกระชับและสลายไขมันไปพร้อมกัน
ปรับรูปหน้า ราคาเท่าไร
ราคาการปรับรูปหน้าจะแตกต่างกันไปตามวิธีการและคลินิกที่เลือกใช้บริการ ดังนี้
- ร้อยไหมปรับรูปหน้า ราคาอยู่ที่ประมาณ 8,900 บาทขึ้นไป
- เมโสแฟตปรับรูปหน้า ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 บาทต่อครั้ง
- ฉีดฟิลเลอร์ ราคาอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาทขึ้นไป
- ฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทต่อครั้ง
- Ulthera ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป
- Thermage ราคาอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทขึ้นไป
สรุปบทความ
การปรับรูปหน้าในปัจจุบันมีหลากหลายทางเลือกที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการร้อยไหม ฉีดโบท็อก ฉีดฟิลเลอร์หรือใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ แต่ละวิธีมีจุดเด่นและความเหมาะสมแตกต่างกัน การเลือกวิธีปรับรูปหน้าที่เหมาะสมควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและปัญหา รวมถึงพิจารณางบประมาณและระยะเวลาในการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติตามที่ต้องการ