5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

สารบัญ

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ 

รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร

รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน 

รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง

รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้

  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 30 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดน้อยลง ส่งผลให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดรอยย่นได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย ๆ อย่างระหว่างคิ้ว
  • การแสดงสีหน้า การขมวดคิ้วบ่อย ๆ ไม่ว่าจะด้วยความเครียด การแสดงอารมณ์หรือการเพ่งมองสิ่งต่าง ๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้ทำงานซ้ำ ๆ จนเกิดรอยย่นถาวร
  • แสงแดดและมลภาวะ รังสี UV จากแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายคอลลาเจนในผิว ขณะที่มลภาวะในอากาศก็ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การสูบบุหรี่และการละเลยการบำรุงผิว ล้วนเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยด้วยเช่นกัน 

5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว

วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้  

1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น  

ทาครีมบำรุงลดเลือนริ้วรอย

2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว

อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด 

อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ

3. โบท็อกซ์ 

การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน  

4. เลเซอร์ยกกระชับ

เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ  

5. ศัลยกรรมผ่าตัด

สำหรับผู้ที่มีรอยย่นลึกมากและต้องการผลลัพธ์ที่ถาวร การผ่าตัดดึงหน้านับว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถาวร แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงและต้องการเวลาพักฟื้น โดยจะทำการผ่าตัดดึงผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น และตัดส่วนเกินออก วิธีนี้ก็จะให้ใบหน้าของคุณดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเห็นได้ชัด 

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยย่นระหว่างคิ้ว

สำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่อายุยังไม่เกิน 30 ปี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาริ้วรอยก่อนวันอันควร ควรป้องกันผิวหน้าตัวเองก่อนปัญหาจะมาเยือน โดยสามารถทำตามได้ ดังนี้

  • ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน แม้อยู่ในร่ม
  • หลีกเลี่ยงการขมวดคิ้วบ่อย ๆ เพ่งจอคอมหรือโทรศัพท์นาน ๆ 
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิว 
พักผ่อนให้เพียงพอป้องกันรอยย่นระหว่างคิ้ว

สรุปบทความ 

รอยย่นระหว่างคิ้วอาจเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจ แต่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมความงามที่มีอยู่ในปัจจุบัน เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผิวพื้นฐาน ไปจนถึงการเลเซอร์ สิ่งสำคัญ คือการเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง หากสนใจทำหัตถการลดเลือนริ้วรอย แนะนำให้เลือคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย พร้อมพร้อมทั้งปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง

เรื่องล่าสุด

5 สัญญาณที่บ่งบอกว่า…คุณควรเลือก Biostimulator แทน Filler
สาระน่ารู้

5 สัญญาณที่บ่งบอกว่า…คุณควรเลือก Biostimulator แทน Filler

ปัจจุบันการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และกระชับมีตัวเลือกมากมาย ซึ่ง Filler และ Biostimulator เป็นสองเทคนิคยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่า

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
สาระน่ารู้

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
สาระน่ารู้

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้ ?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

5 สัญญาณที่บ่งบอกว่า…คุณควรเลือก Biostimulator แทน Filler
สาระน่ารู้

5 สัญญาณที่บ่งบอกว่า…คุณควรเลือก Biostimulator แทน Filler

ปัจจุบันการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และกระชับมีตัวเลือกมากมาย ซึ่ง Filler และ Biostimulator เป็นสองเทคนิคยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่า

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
สาระน่ารู้

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
สาระน่ารู้

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้ ?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง