ปัจจุบันการร้อยไหมเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้การร้อยไหมหน้าเรียวมีความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่หลายคนยังกังวลเรื่องอาการบวมหลังทำและระยะเวลาในการฟื้นตัว วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการร้อยไหมอย่างละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจและเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสมก่อนเข้ารับการรักษากัน ในบทความนี้
ร้อยไหม คืออะไร
ร้อยไหม คือนวัตกรรมความงามที่ช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการใช้เข็มพิเศษนำเส้นไหมสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อยกและกระชับผิวในบริเวณที่ต้องการ นอกจากจะช่วยยกกระชับแล้ว การร้อยไหมยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวดูเต่งตึง อ่อนเยาว์และช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ไหมมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
1. ไหมเงี่ยง
ไหมเงี่ยงหรือไหมก้างปลาเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยลักษณะพิเศษของเงี่ยงที่ยื่นออกมาจากเส้นไหม ช่วยเกี่ยวและยกผิวให้กระชับขึ้น มีทั้งแบบเงี่ยงใหญ่ที่ละลายช้าและอยู่ได้นาน และแบบเงี่ยงเล็กที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการฟื้นตัวเร็ว บวมช้ำน้อย แต่มีระยะเวลาอยู่ได้สั้นกว่า
โดยปัจจุบันได้มีการพัฒนามาเป็นไหม molding cog ซึ่งเป็นไหมเงี่ยงรุ่นใหม่ที่มีความพิเศษตรงที่สามารถปรับรูปทรงใบหน้าได้อย่างแม่นยำ ด้วยเทคโนโลยีการจัดวางเงี่ยงแบบ 360 องศา ทำให้สามารถยึดเกาะเนื้อเยื่อได้รอบทิศทาง ส่งผลให้การยกกระชับมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2. ไหมเรียบ (Mono threads)
ไหมเรียบเป็นไหมขนาดเล็กที่มีจุดเด่นในการกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยลดริ้วรอย อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดที่ไม่สามารถยกกระชับผิวได้มากนัก ทำให้ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมเท่าไหมประเภทอื่น
3. ไหมกรวย
ไหมกรวยหรือ Silhouette ผลิตจากวัสดุ PLLA มีขนาดเส้นค่อนข้างเล็ก แม้จะมีคุณสมบัติพิเศษ แต่ด้วยราคาที่สูงและข้อจำกัดในการยกกระชับ ทำให้ไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน
4. ไหมเกลียว
ไหมเกลียวมีลักษณะเป็นเส้นไหมสองเส้นที่พันกันเป็นเกลียว แม้จะดูน่าสนใจ แต่มักพบปัญหาการบวมช้ำหลังทำ และไม่เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวมากนัก
5. ไหมคอลลาเจน
ไหมคอลลาเจนเป็นชื่อทางการตลาดที่ใช้เรียกไหมที่เน้นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มักใช้ไหมเรียบ (Mono threads) จำนวนมาก (20-40 เส้น) เพื่อกระชับรูขุมขนและลดริ้วรอยเล็กๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวมากกว่าการยกกระชับ
ร้อยไหมช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง
- การร้อยไหมช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณแก้มและเหนียง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น กระชับขึ้น
- ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้มีมิติ สามารถแก้ไขปัญหารูปหน้าที่ไม่สมมาตรได้
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวเต่งตึง มีความยืดหยุ่นดีขึ้น
- สามารถยกคิ้ว ยกหางตา แก้ไขปัญหาหนังตาตกได้
- เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาเมื่อทำร่วมกับหัตถการอื่นๆ เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ หรือ HIFU
ร้อยไหมเหมาะสำหรับใครบ้าง
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย แก้มห้อย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว มีมิติมากขึ้น แต่ไม่ต้องการผ่าตัด
- ผู้ที่มีปัญหาความไม่สมมาตรของใบหน้า เช่น คิ้ว 2 ข้างไม่เท่ากัน
- ผู้ที่มีริ้วรอยหรือร่องลึกบนใบหน้า และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้วแต่ต้องการผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ใครบ้างที่ไม่ควรร้อยไหม
- ผู้ที่มีภาวะแก้มตอบหรือมีไขมันบนใบหน้าน้อยเกินไป
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังติดเชื้อหรือมีโรคผิวหนังที่กำลังกำเริบ
- ผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ผิดปกติ
- ผู้ที่เคยฉีดสารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐานหรือซิลิโคนเหลว
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่าย หรือกำลังทานยาละลายลิ่มเลือด
วิธีการเตรียมตัวก่อนเข้าร้อยไหม
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการร้อยไหมให้ละเอียด เลือกคลินิกและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
- งดยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน ibuprofen อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดวิตามินและอาหารเสริมบางชนิด เช่น Vitamin E, Ginkgo biloba 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดครีมผลัดเซลล์ผิวและครีมต้านริ้วรอยทุกชนิด 3 วันก่อนทำ
- งดการนวดหน้า ทำทรีตเมนต์ หรือเลเซอร์ใดๆ อย่างน้อย 3 วันก่อนทำ
วิธีการดูแลตัวเองหลังร้อยไหม
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส กดนวด หรือขยับใบหน้ามากเกินไปในช่วง 3 วันแรก
- ทานยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบตามที่แพทย์สั่ง
- งดทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อนเป็นเวลา 1 เดือน
- นอนหงาย ยกศีรษะสูงในสัปดาห์แรก เพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการร้อยไหม
ร้อยไหม อันตรายไหม
การร้อยไหมไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งนี้ก็จำเป็นต้องเลือกใช้ไหมที่ได้มาตรฐาน เช่น ไหมละลายผ่านมาตรฐานการรับรองอย่างปลอดภัยและทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากความเสี่ยงส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ไหมที่ไม่ได้คุณภาพหรือเทคนิคการร้อยที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
หลังร้อยไหมหน้าบวมกี่วัน
อาการบวมหลังร้อยไหมมักพบมากในช่วง 3 – 4 วันแรก จากนั้นจะค่อย ๆ ยุบลงและเข้าที่ภายใน 7 – 14 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดหลังจาก 1 เดือน หากมีอาการบวมมากผิดปกติหรือไม่ดีขึ้นหลังจาก 4 วัน ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ร้อยไหมมีผลข้างเคียงหลังการทำไหม
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย คืออาการบวม รอยช้ำและความรู้สึกตึงบริเวณที่ร้อยไหม ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและจะหายไปเองภายใน 1 – 2 สัปดาห์ ผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น การติดเชื้อหรือไหมทะลุ มักเกิดจากการร้อยไหมที่ไม่ได้มาตรฐานหรือการดูแลหลังทำที่ไม่เหมาะสม
ร้อยไหมต้องพักฟื้นกี่วัน
การร้อยไหมไม่จำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน สามารถกลับไปทำงานได้ทันทีหลังทำ แต่อาจมีอาการบวมและรู้สึกตึงในช่วงแรก ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องขยับใบหน้ามาก ๆ ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก
ร้อยไหมอยู่ได้นานไหม
ผลลัพธ์จากการร้อยไหมสามารถอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมและการดูแลหลังทำ ในระยะแรกจะเห็นผลการยกกระชับชัดเจน จากนั้นผิวจะค่อย ๆ ปรับตัวและเกิดการสร้างคอลลาเจนตามแนวไหม ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
สรุปบทความ
การร้อยไหมเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด แม้จะมีอาการบวมในช่วงแรก แต่ก็สามารถหายได้เองภายใน 1 – 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์หลังการทำขึ้นอยู่กับการเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ การใช้ไหมที่ได้มาตรฐานและการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและยาวนานที่สุด