เคลียร์ปัญหา ฝ้า กระ พร้อมวิธีแก้ให้ผิวกลับมาเนียนใส

เคลียร์ปัญหา ฝ้า กระ พร้อมวิธีแก้ให้ผิวกลับมาเนียนใส อย่างเห็นได้ชัด

ฝ้า กระ ไม่ใช่แค่ปัญหาผิวที่ทำให้หน้าดูหมอง แต่ยังทำให้เราดูมีอายุเกินจริงแบบไม่รู้ตัว ยิ่งปล่อยไว้นาน ยิ่งลุกลาม และรักษายาก แต่ปัญหานี้มีทางแก้!

บทความนี้ จะพาคุณมารู้จักสาเหตุหลักของ ฝ้า กระ และวิธีดูแลผิวให้กลับมาเนียนใส แบบเห็นผลได้จริง จนใคร ๆ ต้องทัก

สารบัญ

รู้จัก ฝ้า และ กระ ต่างกันอย่างไร

ฝ้า และ กระ เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากการผลิตเม็ดสีเมลานินผิดปกติ แต่มีลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนี้

ฝ้า

ฝ้าจะมีลักษณะเป็นแผ่นปื้น ๆ มีสีตั้งแต่อ่อนจนถึงเข้มมาก เป็นสีน้ำตาล หรือเทาเข้ม หรือสีอื่น ๆ ขึ้นอยู่ว่าฝ้าที่เกิด เกิดบริเวณผิวหนังชั้นไหน ตื้น หรือลึกแค่ไหน มักเห็นได้ชัดบริเวณโหนกแก้ม เพราะโดนแดดมากที่สุด และมักเห็นชัดในคนผิวขาว

ประเภทของฝ้า

  • ฝ้าแดด เป็นปัญหาฝ้าที่เกิดขึ้นได้ง่ายที่สุด เพราะเกิดจากแสงแดด และรังสีหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทรศัพท์ มักมีลักษณะเป็นรอยคล้ำสีน้ำตาล แดง เทา และหากไม่ได้รับการรักษา หรือไม่ทาครีมกันแดด สีของฝ้าแดดก็จะเข้มขึ้นเรื่อย ๆ
  • ฝ้าตื้น เกิดจากการที่เมลานินสร้างเม็ดสีมากผิดปกติบริเวณผิวหนังชั้นนอก มักเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือดำ และมีลักษณะเป็นปื้นชัด สามารถรักษาได้ด้วยครีมทาฝ้า
  • ฝ้าลึก เกิดจากการที่เมลานินสร้างเม็ดสีมากผิดปกติ บริเวณชั้นหนังแท้ ซึ่งได้รับการดูแลรักษายากกว่าฝ้าตื้น มักจะมีสีน้ำตาลอ่อน และมักจะกลืนไปกับผิวหน้าเรา ซึ่งฝ้าชนิดนี้ อาจจะต้องพบแพทย์ เพราะการทาครีมอย่างเดียวอาจจะไม่ช่วย
  • ฝ้าเลือด มีลักษณะคล้ายเส้นเลือด สีแดงปนน้ำตาล ฝ้าเลือดเกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังเกิดการแตก และกระจุกบริเวณใต้ผิวหนัง เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การรับประทานยา และการโดนแสงแดดมากเกินไป
ประเภทของฝ้า

กระ

ลักษณะของกระ จะมีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ ที่อาจมีสีอ่อน หรือเข้มกว่าสีผิวปกติ ซึ่งจะแตกต่างจากฝ้าที่มีลักษณะเป็นแผ่นปื้น ดังนั้น ตรงจุดนี้เรียกได้ว่าเป็นข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดของฝ้า และ กระ

ประเภทของกระ

  • กระตื้น เป็นกระที่พบได้บ่อยในคนผิวขาว มีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีเข้ม หรืออ่อนกว่าผิวหนัง แต่ส่วนใหญ่เป็นสีน้ำตาล เกิดจากการโดนแสงแดดเป็นเวลานาน ซึ่งหากหลีกเลี่ยงแสงแดดมีโอกาสที่จะจางได้เอง
  • กระลึก มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล หรือสีดำ เป็นกระที่อยู่ใต้ชั้นผิวลึก มักพบบริเวณโหนกแก้มมากที่สุด โดยกระชนิดนี้ จะรักษายาก อาจจะต้องใช้เลเซอร์เข้ามาช่วยในการรักษา
  • กระแดด เป็นกระที่เกิดจากการโดนแสงแดดเป็นเวลานาน มักมีลักษณะเป็นดวงสีน้ำตาลเข้ม ผิวเรียบ
  • กระเนื้อ เป็นกระที่มักเกิดจากพันธุกรรม มีลักษณะเป็นก้อนเนื้อเล็ก ๆ นูนออกมาจากผิวหนังมักมีสีน้ำตาล สีดำ เกิดขึ้นตามใบหน้า หรือคอ โดยกระชนิดนี้สามารถเลเซอร์ออกได้ มีโอกาสน้อยที่เกิดรอยแผลเป็น
4 ประเภทของกระ

ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า กระ

ปัจจัยการเกิดฝ้า กระ เกิดจากกระบวนการสร้างสีของเซลล์เม็ดสี (Melanocyte) ที่ผิดปกติ ทำให้เกิดเป็นรอยสีน้ำตาลบนผิวหนัง สาเหตุหลักคือ แสงแดด ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า กระ มีดังนี้

  1. แสงแดด
    รังสี UVA และ UVB จากแสงแดดเป็นตัวการหลักที่กระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น หากไม่มีการป้องกันผิวที่ดี อาจเกิดความเสียหายต่อผิว และกระตุ้นให้เกิดฝ้าลึกได้ 
  2. ฮอร์โมน
    ระดับฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้น เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน หรือการใช้ยาคุมกำเนิด ฮอร์โมนเหล่านี้กระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีให้ทำงานมากขึ้น 
  3. พันธุกรรม
    การมีประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นฝ้า จะเพิ่มโอกาสในการเป็นฝ้า 
  4. อายุ
    กระบวนการฟื้นฟูผิว และความสมดุลของเม็ดสีลดลงตามอายุ ทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น 
  5. ยาบางชนิด
    ยาบางประเภท เช่น ยาคุมกำเนิด ยารักษาโรคบางอย่าง เช่น ยากันชัก ยารักษาอาการทางจิต หรือเรตินอยด์ 
  6. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และเครื่องสำอาง
    ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองต่อผิว หรือมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการอักเสบหรือปฏิกิริยาไวแสง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ 
  7. ภาวะขาดวิตามิน
    การขาดวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินบี 6 และบี 12 อาจส่งผลต่อการทำงานของผิว และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดฝ้า 
  8. พฤติกรรมที่ขาดการป้องกัน
    การไม่ทาครีมกันแดด การไม่สวมหมวกหรือเสื้อผ้าที่ช่วยป้องกันแสงแดด การสัมผัสแสงแดดจัด ๆ เป็นเวลานาน โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00 – 15.00 น.

ทำไมฝ้า กระถึงรักษายากกว่าที่คิด

ปัญหาฝ้า และกระรักษายาก เพราะมีปัจจัยซับซ้อน หลายคนที่พยายามรักษาฝ้าด้วยตนเอง หรือใช้หัตถการจัดการฝ้าอาจพบว่าปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ รักษาให้จางลงได้ยาก ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุสำคัญ เหล่านี้

  1. ฝ้ามีหลายชนิด และหลายระดับความลึก ทั้งฝ้าแบบตื้น ฝ้าแบบลึก และฝ้าผสม ซึ่งต้องใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป การรักษาฝ้าที่ไม่ตรงจุดอาจทำให้ฝ้าดื้อยา และฝังลึกขึ้นจนรักษาได้ยาก
  2. ปัจจัยกระตุ้นฝ้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็น มลภาวะ ฮอร์โมน และพันธุกรรมเป็นตัวกระตุ้นที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ทำให้ฝ้ากลับมาได้ใหม่แม้เคยรักษาไปแล้ว
  3. การตอบสนองของผิวที่แตกต่าง สภาพผิว และระดับความรุนแรงของปัญหาฝ้ามีผลต่อการรักษา ส่งผลให้บางคนต้องใช้เวลารักษาฝ้านานกว่าที่ผิวจะตอบสนอง และรอยฝ้าดูจางลง
  4. การรักษาฝ้าด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ หรือยารักษาฝ้าชนิดรุนแรง รวมไปจนถึงความเชื่อผิด ๆ อย่างการสครับขัดหน้า การลอกหน้าบ่อย ๆ เพื่อช่วยลดฝ้า ซึ่งวิธีเหล่านี้อาจทำให้กระตุ้นให้ฝ้าเข้ม และชัดขึ้น
ทำไม ฝ้า กระ ถึงรักษายากกว่าที่คิด

วิธีดูแล และรักษาฝ้า กระ ให้ได้ผลจริง

ปัญหาฝ้า กระ เป็นปัญหาที่หลายคนกังวล เพราะเป็นจุดบกพร่องบนใบหน้าที่สังเกตเห็นได้ชัด พอเป็นแล้วก็แก้ไขยาก หลายคนอาจใช้เครื่องสำอางช่วยปกปิด แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาฝ้าจากต้นเหตุ สำหรับคนที่เจอปัญหาฝ้า มีวิธีการรักษาฝ้า กระ ที่เห็นผลได้จริงหลากหลายทั้งการเลเซอร์ เมโสหน้าใส และการดูแลตัวเอง ดังนี้

  • การทาครีม หรือยารักษาฝ้า
    การทาครีมที่มีส่วนประกอบของ AHA, อาร์บูติน, กรดโคจิก จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ กระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออก และเผยผิวใหม่ขึ้นมาแทน ทำให้ฝ้าจางลง ผิวหน้าดูสม่ำเสมอ แต่ข้อเสียต้องทาครีมอย่างสม่ำเสมอ และต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
  • การใช้สารเคมีเพื่อลอกผิว (Chemical Peeling)
    เป็นการรักษาฝ้าได้โดยการใช้สารเคมีเพื่อลอกผิวชั้นนอกที่ตายแล้ว และเซลล์เม็ดสีที่เกินออกไป เผยให้เห็นผิวใหม่ที่กระจ่างใสกว่าเดิม ซึ่งช่วยให้ฝ้าดูจางลง อย่างไรก็ตาม การรักษานี้ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะหากทำเองหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้ แสบร้อน หรือเกิดรอยดำถาวรได้
  • เลเซอร์รักษาฝ้า
    วิธีรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์เป็นอีกวิธีที่เห็นผลเร็ว เครื่องเลเซอร์รักษาฝ้าที่นิยม ได้แก่ เลเซอร์ ND-Yag , Fractional, Q-Switch, Picosecond Laser, Copper Bromide laser เป็นต้น เป็นการยิงเพื่อปรับสภาพ และรักษาความผิดปกติของสีผิว ยิงลงไปบริเวณฝ้า กระ โดยตรง และทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีด้วยความร้อน กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวแต่หลังจากยิงเลเซอร์จะมีการตกสะเก็ด และอาจทำให้ผิวไวต่อแสง ดังนั้นจึงต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำประมาณ 1 สัปดาห์
  • รักษาฝ้า กระ ด้วยเมโสหน้าใส
    วิธีรักษาฝ้าด้วยเมโสหน้าใส สามารถช่วยชะลอการกระจายของฝ้าได้ และการใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ฝ้าจางลง 20-50% ในบางเคส ซึ่งในปัจจุบันแม้จะเป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ pico ยาทา ยากิน ยังไม่มีวิธีไหนที่ทำให้ฝ้าหายขาดได้เลย การใช้เมโสหน้าใสลดฝ้า เป็นทางลัดในการบำรุงผิวโดยใช้ตัวยาที่มีประโยชน์เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ทำให้ออกฤทธิ์ไว และอยู่ได้นานกว่าการทาครีมทั่วไป จะเริ่มเห็นผลใน 3 วันหลังใช้ ผิวดีขึ้น และตัวยาออกฤทธิ์เต็มที่ใน 7-14 วัน แต่วิธีแก้ฝ้าบนใบหน้าจะต้องใช้เวลา และความสม่ำเสมอ แนะนำให้ใช้อาทิตย์ละครั้งในเดือนแรก จากนั้นใช้ทุก ๆ 2 อาทิตย์ เมโสหน้าใส จะช่วยบำรุงผิวไปในตัว เห็นผลเร็ว หรือช้าขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ควรให้แพทย์ตรวจประเมินใบหน้า และเลือกสูตรตัวยาที่เหมาะสม เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด

นวัตกรรมใหม่ในการลดเลือน ฝ้า กระ InnoGlitter Premium

InnoGlitter Premium ผลิตภัณฑ์ช่วยฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก ให้ผิวสว่างกระจ่างใสพร้อมลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยสารสกัดสุดพรีเมียมอย่างเปลือกสนฝรั่งเศส ช่วยยับยั้งการสร้าง และลดการสะสมของเม็ดสี พร้อมต้านอนุมูลอิสระ ให้ผิวกลับมาสดใสแข็งแรงด้วย ” 5 กลไกการทำงาน ของ InnoGlitter Premium

กลไกที่ 1

บล็อกการทำงานเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ด้วยสารสำคัญอย่าง Kojic Acid ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยลดปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำ ที่เกิดจากแสงแดดให้ดูจางลง พร้อมเผยความกระจ่างใสบนใบหน้า

กลไกที่ 2

จำกัดการแสดงออกของยีน MITF (melanocyte inducing transcription factor) ยีน MITF มีบทบาทอย่างมากในการสังเคราะห์เม็ดสี โดย PDRN และ PN จะเข้าไปรบกวนสัญญาณ ERK-associated pathway ส่งผลให้ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินลดลง

กลไกที่ 3

เพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูเซลล์ผิว กระบวนการทำงานของ Placental extract ที่มีโปรตีน และโกรทเฟคเตอร์ในปริมาณสูง (EGF, FGF, IGF-1, TGF-β1) ให้เกิดการเคลื่อนที่ และเปลี่ยนแปลงของ Keratinocyte กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น ซ่อมแซม และฟื้นฟูเซลล์ผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย และปรับสีผิวให้สว่างขึ้น

กลไกที่ 4

ลดการเจริญเติบโตของถุง melanosome สารสกัด Arbutin มีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของถุง Melanosome ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมา และขนส่งจาก Melanocyte ไปยัง Keratinocyte ขัดขวางกระบวนการที่เม็ดสีถูกส่งไปยังเซลล์ผิว จากการทดลอง Arbutin ให้ฤทธิ์ความเป็นพิษน้อยกว่า Hydroquinone

กลไกที่ 5

ลดการสร้างสารอนุมูลอิสระ (Reactive oxygen species: ROS, Nitric oxide: NO) โดยปกติปริมาณของ Melanin จะเพิ่มขึ้นตามระดับของสารอนุมูลอิสระ เมื่อมีปริมาณมาก melanin ก็จะมากขึ้น สารสกัด Pycnogenol ที่ประกอบไปด้วย Phenol และ Flavonoid สามารถช่วยยับยั้งการผลิตสารอนุมูลอิสระ และยังช่วยเพิ่มระดับของ Glutathione ได้อีกด้วย

นวัตกรรมใหม่ในการลดเลือน ฝ้า กระ Innoglitter Premium

ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ฝ้า กระไม่กลับมา

นอกจากการรักษาฝ้าแล้ว การป้องกันไม่ให้ฝ้า กระเกิดซ้ำก็เป็นสิ่งสำคัญ มีหลายวิธีที่ช่วยป้องกันการเกิดฝ้า กระ ได้แก่

  • หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดเป็นเวลานาน สวมหมวก ร่ม และเสื้อแขนยาวเมื่อต้องออกแดด
  • ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 PA+++ ขึ้นไปทุกวัน เพิ่มความถี่เป็นทุก 2-3 ชั่วโมง หากอยู่กลางแดดนาน
  • ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้า หรือ serum บำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดฝ้ากระ และลดการกลับมาเป็นซ้ำ
  • เลือกใช้เครื่องสำอางที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ระคายเคือง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ จัดการความเครียด เพราะฮอร์โมนที่เกิดจากความเครียดจะกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินได้
  • รับประทานอาหารที่มีวิตามินซี และอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวให้มีสภาพดีขึ้น

สรุป

ฝ้า กระ เป็นปัญหาผิวที่ซับซ้อน และกวนใจ หากไม่ได้รับการแก้ไขดูแล ก็อาจจะขยายวงกว้าง ส่งผลให้ความมั่นใจลดลง

คุณสามารถจัดการปัญหาฝ้ากระได้แบบตรงจุดด้วย InnoGlitter Premium ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมปัญหาความหมองคล้ำ สารสกัดลงลึกถึงต้นตอของปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ร่วมกับการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อการรักษาฝ้าที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด


นวัตกรรมใหม่ในการลดเลือน ฝ้า กระ InnoGlitter Premium

สนใจผลิตภัณฑ์ INNOGLITTER PREMIUM สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ 061-5325495 หรือ กด @Line ด้านล่างได้เลยค่ะ

เรื่องล่าสุด

ริ้วรอยร่องลึก เป็นหนึ่งในสัญญาณผิวที่หลายคนกังวล เพราะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย ปัจจุบันมีหัตถการหลายชนิดที่ช่วยลดเลือนร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักตัวช่วยยอดฮิต พร้อมเปรียบเทียบข้อดีของแต่ละวิธี เพื่อให้เลือกได้ตรงจุดที่สุด

…..

Planiti และ Exosome เป็นหัตถการฟื้นฟูผิวล้ำลึกที่กำลังได้รับความนิยม แต่หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่า ทั้งสองต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวตัวเอง

บทความนี้จะพาคุณสรุปข้อแตกต่าง จุดเด่น และวิธีเลือกให้ตรงกับปัญหาผิวของคุณที่สุด

…..
ในยุคที่เทคโนโลยีด้านความงามพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง การดูแลผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจในปัจจุบันคือ โปรแกรม Planiti ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายใน เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยลดเลือนริ้วรอย บทความนี้จะพาท่านไปรู้จักกับ โปรแกรม Planiti เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกดูแลผิวอย่างตรงจุดและปลอดภัยค่ะ…..

Related Article

ถุงใต้ตา และความหมองคล้ำเป็นปัญหาที่หลายคนเผชิญ ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า และ แก่กว่าวัย หากคุณกำลังมองหาวิธีจัดการกับปัญหานี้อย่างได้ผล บทความนี้ จะพาคุณไปเรียนรู้เคล็ดลับ และเทคนิคต่าง ๆ ที่จะช่วยลดถุงใต้ตาและความหมองคล้ำให้จางลง พร้อมเผยความสดใสให้กับผิวรอบดวงตาของคุณ…..
สิว คือ อาการที่เกิดจากการอักเสบของรูขุมขน และต่อมไขมัน มักจะเกิดขึ้นบริเวณที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่อยู่เยอะอย่างเช่น บริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอกและแผ่นหลัง โดยมักจะพบมากในช่วงวัยรุ่นตั้งแต่อายุ 14-25 ปี และจะค่อยๆหายไปเมื่ออายุมากขึ้น…..
ไขความลับ! ปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดูแลรักษายังไง ? ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ เม็ดสีผิว (melanin pigment) ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสี…..