ปัญหา ใต้ตา ที่พบบ่อย
1. ถุงใต้ตา
เกิดจากการสะสมของไขมัน หรือของเหลวในบริเวณ ใต้ตา ซึ่งมักเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ อายุที่มากขึ้นทำ ให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น และ การสะสมของของเหลว อันเนื่องมาจาก การทานอาหารเค็ม หรือการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ภาวะภูมิแพ้หรือปัจจัยทางพันธุกรรม ก็สามารถทำให้เกิดถุงใต้ตาได้เช่นกัน ส่งผลให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า และ ไม่สดใส
2. ใต้ตาหมองคล้ำ
เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด และ การขาดสารอาหารที่จำเป็น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางพันธุกรรม อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ ผิวบางลง การไหลเวียนเลือดไม่ดี รวมถึงการสะสมของเม็ดสีเมลานินมากเกินไป
3. ริ้วรอยใต้ตา
เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจน และ อิลาสตินตามธรรมชาติ เมื่ออายุมากขึ้น ส่งผลให้ผิวบาง และ ยืดหยุ่นน้อยลง นอกจากนี้ การขยับกล้ามเนื้อรอบดวงตา เช่น การยิ้ม การหรี่ตา หรือการขมวดคิ้ว เป็นการกระตุ้นให้เกิดริ้วรอยลึกยิ่งขึ้น ปัจจัยภายนอกอย่างแสงแดด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการสูบบุหรี่ ยังมีผลทำให้ผิวใต้ตาเสื่อมสภาพเร็ว และเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
วิธีแก้ปัญหาใต้ตา
1. การใช้ครีมบำรุง ใต้ตา
การใช้ครีมบำรุงใต้ตา เป็นวิธีสำคัญในการดูแลผิวบริเวณรอบดวงตาที่บอบบาง และมีแนวโน้มเกิดปัญหาง่าย เช่น ริ้วรอย ถุงใต้ตา และ ความหมองคล้ำ ครีมบำรุงใต้ตามักมีส่วนผสมของ วิตามิน C , เปปไทด์ และกรดไฮยาลูรอนิค ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดเลือนริ้วรอย ซึ่งช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูสดใส และกระชับมากขึ้น
ข้อดี
– ใช้ง่าย สามารถทำได้ทุกวัน
ข้อด้อย
– ผลลัพธ์อาจไม่เห็นทันที
คำแนะนำ
– ใช้เป็นประจำ ในชีวิตประจำวัน
2. การร้อยไหม ใต้ตา
การร้อยไหม เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม ในการยกกระชับผิว โดยใช้ไหมละลายเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งจะช่วยลดความหย่อนคล้อย และริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี
– ผลลัพธ์ทันที อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
ข้อด้อย
– อาจรู้สึกเจ็บ และมีฟกช้ำชั่วคราว
คำแนะนำ
– ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปีละ 1-2 ครั้ง
3. InnoGlossy Eyes
การทำหัตถการ InnoGlossy Eyes เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ช่วยฟื้นฟูความสดใสใต้ตา โดยการส่งสารบำรุง และวิตามินเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น และลดความหมองคล้ำ
ข้อดี
– เห็นผลทันที ไม่มีเวลาพักฟื้น
ข้อด้อย
– ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน
คำแนะนำ
– ควรทำทุก 3-6 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์
4. การใช้เลเซอร์ ฟื้นฟูผิวใต้ตา
การใช้เลเซอร์ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดจุดด่างดำที่ใต้ตา ทำให้ผิวกระชับ และเรียบเนียน
ข้อดี
– ลดริ้วรอย และปรับสภาพผิวได้ดี
ข้อด้อย
– อาจต้องใช้เวลาพักฟื้น 1-2 วัน
คำแนะนำ
– ทำปีละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิว
การดูแลตัวเองหลังการรักษา
- หลังการรักษา ควรหลีกเลี่ยงการถู หรือนวดผิวใต้ตา ใช้ครีมกันแดด และดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้น ในผิว
- การนอนหลับเพียงพอ ช่วยลดความหมองคล้ำ
- การทานอาหารที่มีประโยชน์ สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิว
- การออกกำลังกาย เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
สรุป
ปัญหาถุงใต้ตา หรือความหมองคล้ำ มีหลายวิธีที่ช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตา ให้กลับมาสดใสได้ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ครีมบำรุงที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย และเติมความชุ่มชื้น การร้อยไหมใต้ตาที่ช่วย ยกกระชับผิว และการทำ InnoGlossy Eyes ซึ่งช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ การดูแลหลังการรักษาก็สำคัญ เช่น การนอนหลับให้เพียงพอ การใช้ครีมกันแดด และดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน