ยกกระชับหน้า มีกี่แบบ
เมื่อพูดถึงการยกกระชับหน้า มีกี่แบบนั้น โดยทั่วไปเราสามารถแบ่งประเภทหลัก ๆ ได้ 3 กลุ่มใหญ่ตามลักษณะของวิธีการทำ ดังนี้
- ยกกระชับหน้าด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นวิธีการดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอก เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การบำรุงผิวและการออกกำลังกายใบหน้า ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือทางการแพทย์ แต่ต้องอาศัยวินัยและความสม่ำเสมอจึงจะเห็นผลลัพธ์
- ยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน เนื่องจากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วกว่าวิธีธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีระยะเวลาพักฟื้นที่ยาวนาน เป็นการใช้เครื่องมือหรือสารเติมเต็มเข้าช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยโดยตรง
- ยกกระชับหน้าด้วยการผ่าตัด เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงชัดเจนและยาวนานที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยในระดับมาก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าและต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานกว่าวิธีอื่น ๆ
10 วิธียกกระชับหน้า มีอะไรบ้าง
คราวนี้เรามาเจาะลึกถึง 10 วิธีที่ได้รับความนิยมในแต่ละประเภท เพื่อให้คุณได้พิจารณาเลือกวิธีที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวและความต้องการของตัวเองมากที่สุดกัน
1. ร้อยไหมยกกระชับหน้า
การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ใช้ไหมละลายสอดเข้าไปใต้ชั้นผิว เพื่อสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่รอบ ๆ เส้นไหม ทำให้ผิวเกิดการดึงรั้งและยกกระชับขึ้นทันที นอกจากนี้ยังช่วยให้กรอบหน้าคมชัดและผิวเต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ว่า ร้อยไหมมีกี่แบบ เพื่อเลือกชนิดของเส้นไหมที่เหมาะกับปัญหาผิวของตนเอง

2. ฟิลเลอร์ยกกระชับหน้า
ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกเท่านั้น แต่ยังช่วยยกกระชับใบหน้าได้อีกด้วย โดยแพทย์จะใช้ฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณที่เป็นโครงสร้างของใบหน้า เช่น ขมับ โหนกแก้ม หรือแนวกราม เพื่อทดแทนกระดูกที่ยุบตัวลงตามวัย ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยถูกดึงขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้น
3. โบท็อกยกกระชับหน้า
โบท็อก หรือ Botulinum Toxin เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการลบเลือนริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ แต่ก็สามารถนำมาใช้ในการยกกระชับใบหน้าได้ด้วยเทคนิค “Dermo Lift” หรือ “Nefertiti Lift” โดยการฉีดโบท็อกบริเวณกรอบหน้าและลำคอ เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ดึงผิวลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกผิวขึ้นทำงานได้ดีขึ้น ทำให้กรอบหน้าดูคมชัดและผิวบริเวณลำคอเรียบเนียนขึ้น
4. HIFU
HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) คือเทคโนโลยีการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงยิงลงไปใต้ชั้นผิวหนังจนถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้ชั้นไขมันและเนื้อเยื่อในชั้นนี้เกิดการหดตัว ใบหน้าจึงยกกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิวอีกด้วย
5. Ulthera SPT
Ulthera SPT เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับหน้าที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์เช่นเดียวกับ HIFU แต่มีความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี MFU-V (Micro-Focused Ultrasound with Visualization) ที่มีหน้าจอแสดงผล ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถส่งพลังงานลงไปกระตุ้นคอลลาเจนในชั้น SMAS ได้อย่างตรงจุด ทำให้ผลลัพธ์การยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. Thermage FLX
Thermage FLX ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูง Monopolar Radiofrequency หรือ RF ส่งพลังงานความร้อนลงไปในชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้คอลลาเจนที่หย่อนคล้อยเกิดการหดตัวและจัดเรียงตัวใหม่ ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้นทันทีหลังทำ นอกจากนี้ยังช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มและเหนียงได้ดีอีกด้วย
7. ทาครีมบำรุง
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยยกกระชับ เช่น Retinol, Peptide, Vitamin C หรือสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยชะลอความหย่อนคล้อย และริ้วรอยแห่งวัยได้ แม้จะไม่เห็นผลรวดเร็วเท่าหัตถการทางการแพทย์ แต่การบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวแข็งแรงและคงความอ่อนเยาว์ได้ยาวนานขึ้น

8.นวดหน้า
การนวดหน้าอย่างถูกวิธีเป็นประจำ สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและลดอาการบวมได้ นอกจากนี้ การนวดในทิศทางยกขึ้นยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อบนใบหน้าให้แข็งแรงและกระชับขึ้นได้ เป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยผ่อนคลายและดูแลผิวไปพร้อม ๆ กัน
9. ออกกำลังกายใบหน้า
เช่นเดียวกับการออกกำลังกายส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย กล้ามเนื้อบนใบหน้าก็สามารถบริหารให้แข็งแรงขึ้นได้ การทำโยคะใบหน้าหรือท่าบริหารต่าง ๆ ที่เน้นการขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้า จะช่วยให้กล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อยกลับมาฟิตและกระชับขึ้น ส่งผลให้ผิวตึงขึ้นและกรอบหน้าดูชัดเจนขึ้น
10. ศัลยกรรมผ่าตัดยกกระชับหน้า
การผ่าตัดดึงหน้า (Facelift Surgery) เป็นวิธีสุดท้ายสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัด เพื่อตัดผิวหนังส่วนเกินและดึงชั้นกล้ามเนื้อ SMAS ให้ตึงขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ คือใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ลงอย่างชัดเจนและคงอยู่ได้นานหลายปี แต่ก็เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดและต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน

สรุปบทความ
ทั้งนี้ หากสงสัยว่า การยกกระชับหน้า มีกี่แบบ และควรจะเลือกวิธีไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทั้งระดับของปัญหาผิว งบประมาณและความต้องการของแต่ละบุคคล วิธีทางธรรมชาติอาจต้องใช้วินัยและความอดทน ในขณะที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจนกว่า แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามมา การทำความเข้าใจในแต่ละวิธีอย่างละเอียด และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกวิธีการยกกระชับหน้าที่เหมาะสมและปลอดภัย เพื่อคืนความอ่อนเยาว์และความมั่นใจให้กับผิวหน้าคุณได้