ปัญหาเหนียงหย่อนคล้อย ใต้คางไม่กระชับ เป็นความกังวลที่หลายคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น น้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว หรือพันธุกรรม ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน ขาดความมั่นใจเวลาถ่ายรูป หรือรู้สึกแก่กว่าวัย แม้จะมีทางเลือกในการผ่าตัดดึงหน้า แต่หลายคนก็ยังลังเลเพราะกลัวความเจ็บปวดและการพักฟื้นที่ยาวนาน การร้อยไหมเหนียงจึงเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัด
ร้อยไหมเหนียง คืออะไร
การร้อยไหมเหนียง คือหัตถการที่ทำเพื่อยกกระชับผิวบริเวณใต้คางและเหนียง โดยใช้ไหมละลายคู่พิเศษโดยจะใช้เทคนิคพิเศษร้อยไหมเข้าสู่ชั้นผิวหนังใต้เหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัด เส้นไหมจะทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวให้ตึงขึ้น ทำให้เหนียงที่หย่อนคล้อยกระชับและเต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้นนาน
ร้อยไหมเหนียงช่วยลดเหนียงได้อย่างไร
หลักการทำงานของการร้อยไหมเหนียงจะใช้เทคนิคพิเศษในการสอดไหมเงี่ยงเข้าไปในชั้นผิวใต้บริเวณเหนียง เงี่ยงของไหมจะทำหน้าที่เกี่ยวยึดเนื้อเยื่อและไขมันไว้ เมื่อแพทย์ดึงปรับตำแหน่งไหม ส่วนที่หย่อนคล้อยจะถูกยกขึ้น ทำให้เห็นผลลัพธ์การลดเหนียงและกรอบหน้าที่ชัดเจนขึ้นได้ทันที แม้อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วงแรก แต่ใบหน้าจะค่อย ๆ เข้าที่และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 4 – 6 สัปดาห์
ร้อยไหมเหนียง เหมาะสำหรับใครบ้าง
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณใต้คางหรือเหนียง ทำให้ใบหน้าขาดความกระชับและดูแก่กว่าวัย
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหารูปหน้าไม่ได้สัดส่วน ต้องการเพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้าและปรับให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- ผู้ที่กังวลเรื่องการผ่าตัดและไม่ต้องการพักฟื้นเป็นเวลานาน เพราะการร้อยไหมเหนียงใช้เวลาทำไม่นานและกลับไปใช้ชีวิตได้ทันที
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ร้อยไหมเหนียงใช้กี่เส้น
จำนวนไหมที่ใช้ในการร้อยไหมเหนียงจะแตกต่างกันตามประเภทของไหมและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ดังนี้
- ไหมก้างปลาและไหมทอร์นาโดจะใช้ประมาณ 4 – 6 เส้น
- ไหมโครงตาข่าย (Tess-Lift) ใช้ประมาณ 2 – 4 เส้น
- ไหมมิ้นท์ (Mint-Lift) ใช้ประมาณ 2-3 เส้น
- ไหม K2 Plus ใช้ประมาณ 2 – 3 เส้น
ทั้งนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาเลือกชนิดและจำนวนไหมที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการร้อยไหมเหนียง
ร้อยไหมเหนียงอยู่ได้นานไหม นานแค่ไหน
ผลลัพธ์จากการร้อยไหมเหนียงสามารถอยู่ได้นานถึง 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำ พฤติกรรมการใช้ชีวิตและสภาพผิวของแต่ละบุคคล การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดและการดูแลสุขภาพผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ให้นานขึ้น
ร้อยไหมเหนียง อันตรายไหม
การร้อยไหมเหนียงเป็นหัตถการที่ไม่ได้มีความเสี่ยงเท่าการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจทำหัตถการนี้ ควรศึกษาข้อมูลและเลือกรับบริการจากสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ร้อยไหมเหนียง เจ็บไหม
แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณที่จะทำหัตถการ ก่อนทำการร้อยไหมเหนียงทุกครั้ง ทำให้ระหว่างทำคนไข้แทบจะไม่รู้สึกเจ็บ เพียงรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของเข็มและไหมเท่านั้น เมื่อยาชาหมดฤทธิ์อาจมีความรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แต่ไม่รุนแรงและหายได้เองภายในไม่กี่วัน
ผลข้างเคียงจากการร้อยไหมเหนียง มีอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปหลังร้อยไหมเหนียง ได้แก่ อาการบวม รอยช้ำและความรู้สึกตึงบริเวณที่ร้อยไหม ซึ่งจะหายไปเองภายใน 7 – 14 วัน อาจมีเลือดออกเล็กน้อยบริเวณที่แทงเข็ม แต่ไม่เป็นอันตราย
ถ้าหากมีผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ไหมขาด ไหมทะลุหรืออาการติดเชื้อ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที
สรุปบทความ
การยกกระชับใบหน้าที่ตอบโจทย์ผู้ที่มีความกังวลเรื่องเหนียง ความหย่อนคล้อย ร้อยไหมเหนียงสามารถทำได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเทคนิคการร้อยไหมละลายพิเศษที่ช่วยยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เห็นผลลัพธ์ทันทีและคงอยู่ได้นาน 1 – 2 ปี ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจทำ ควรศึกษาข้อมูลโดยละเอียดและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของตนเอง