ไหมน้ำยี่ห้อไหนดี? พร้อมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำไหมน้ำ กระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิว

การดูแลผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์เป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่เทรนด์การดูแลตัวเองกำลังมาแรง ซึ่งหนึ่งในนวัตกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ ไหมน้ำ (Collagen Biostimulator) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวกลับมาเต่งตึง ลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากวัยที่เพิ่มขึ้น แต่ด้วยความหลากหลายของแบรนด์ไหมน้ำในท้องตลาด จึงทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า ไหมน้ำ ยี่ห้อไหนดีที่ให้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ ปลอดภัยและคุ้มค่า ในวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับไหมน้ำยี่ห้อต่าง ๆ พร้อมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำไหมน้ำ เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวของคุณ  

ไหมน้ำยี่ห้อไหนดี

การเลือกไหมน้ำที่เหมาะสมกับผิวของคุณเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีส่วนประกอบ คุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกัน มาดูกันว่า 6 ไหมน้ำยี่ห้อไหนดีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง 

PLANITI

PLANITI เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากประเทศเกาหลี ซึ่งหลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าเป็น ไหมน้ำ แต่ที่จริงแล้ว PLANITI คือสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีส่วนประกอบหลักเป็นพอลิเมอร์ชนิด Poly L-lactic Acid (PLLA) มาในรูปแบบ Freeze-drying powder ที่ต้องผสมกับ Sterile Water ก่อนฉีดเข้าสู่ชั้นผิว ให้ผิวกลับมาเต่งตึง ลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว 

Innovation Beauty ตัวแทนจัดจำหน่าย PLANITI นวัตกรรมจากประเทศเกาหลี ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยเป็นเครื่องมือแพทย์โดยองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (THFDA) องค์การอาหารและยาของประเทศไทย (KFDA) และวัสดุPoly-L-lactic Acid (PLLA) ยังผ่านองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) นอกจากนี้ PLANITI ยังได้รับความไว้วางใจจากคลินิกความงามและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั่วประเทศ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพร้อมยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด 

Ultracol

Ultracol ไหมน้ำช่วยกระตุ้นคอลลาเจนที่มาจากประเทศเกาหลี เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างทาก เนื่องจากเป็นไหมน้ำยี่ห้อเดียวที่มีส่วนประกอบหลักเป็นพอลิเมอร์ชนิด PDO ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกันกับไหมเย็บแผลที่ใช้ทางการแพทย์ จากนั้นได้พัฒนาจนกลายเป็น PDO Microsphere ที่มีโมเลกุลทรงกลมขนาดเล็กระดับ Nano เป็นสารที่อยู่ในรูปแบบผงและเมื่อผสมกับ Sterile Water จะสามารถฉีดเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานสำคัญทั้งในเกาหลี ยุโรป ไทยและอีกกว่า 13 ประเทศทั่วโลก  

Sculptra

Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Stimulator) มีสารประกอบหลักเป็น Poly-L-lactic Acid ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความอิ่มฟูให้กับผิว ปรับปรุงโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยและฟื้นฟูคุณภาพผิวให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  

Juvelook

Juvelook มีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูโรนิก ประเภท Non-crosslinked และพอลิเมอร์  PDLLA ซึ่งมีอนุภาคขนาดเล็กตั้งแต่ 10 – 40 ไมโครเมตร ช่วยให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับให้ผิวดูเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก รอยหลุมสิวและรอยแผลเป็นให้ตื้นขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูผิวให้สว่างกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ   

Gouri

Gouri เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีส่วนประกอบหลักเป็น Polycaprolactone หรือ PCL ในรูปแบบของเหลว ทำให้สามารถกระจายตัวใต้ผิวได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน คงความอ่อนเยาว์ให้กับผิวและสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติโดยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย   

AestheFill

AestheFill เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลีเช่นกัน มีส่วนประกอบหลักคือ PDLLA (Poly D-L-Lactic Acid) ที่มีคุณสมบัติช่วยในการยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USFDA) ยุโรป (CE MARK) เกาหลี (KFDA) จีน (NMPA) และไทย (THFDA)  

ไหมน้ำ เหมาะกับใครบ้าง 

ไหมน้ำหรือสารกระตุ้นคอลลาเจนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยตามวัยแบบไม่ต้องผ่าตัด และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยผู้ที่เหมาะจะหัตถการทำไหมน้ำ ได้แก่ 

• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากการฉีดไหมน้ำต้องอาศัยกระบวนการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย  
• ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ริ้วรอย หางตาหรือริ้วรอยหน้าผาก
• ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ต้องการในผิวดูเรียบเนียน
• ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าดูหมองคล้ำ 
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูเปล่งปลั่งและดูสุขภาพดี  

ไหมน้ำ ช่วยเรื่องอะไร

• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไหมน้ำจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นเองตามธรรมชาติ ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น
• ลดเลือนริ้วรอยตื้นและลึก เช่น รอยเหี่ยวย่นบริเวณร่องแก้ม ร่องหางตา หรือหน้าผาก
• ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงและมีมิติมากขึ้น
• ฟื้นฟูผิวหน้า ผิวให้แข็งแรง รูขุมขนดูเล็กลง
• เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ ชุ่มชื้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
• ช่วยปรับพื้นผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดเลือนรอยหลุมสิวและรอยแผลเป็นขนาดเล็ก
• ช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ 

รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนทำไหมน้ำ  

ไหมน้ำ เจ็บไหม? 

ระหว่างการทำหัตถการฉีดไหมน้ำนั้น จะมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับเจ็บมาก เพราะจะมีการฉีดยาชาบริเวณที่จะฉีดไหมน้ำ อย่างไรก็ตาม ระดับความเจ็บปวดจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความไวต่อความเจ็บปวด ตำแหน่งที่ฉีดและความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการรักษา 

ไหมน้ำ กี่วันเห็นผล? 

หลังจากฉีดไหมน้ำจะสามารถเห็นผลที่เปลี่ยนแปลงประมาณ 2 – 4 สัปดาห์หลังจากฉีด หลังจากนั้นก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น ประมาณ 3 – 6 เดือนหลังทำ ทั้งนี้ระยะเวลาที่เห็นผลอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลและชนิดของไหมน้ำที่ใช้   

ไหมน้ำ อยู่ได้นานไหม?

โดยทั่วไป ผลลัพธ์ของไหมน้ำจะอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมน้ำที่ใช้ เช่น 

• PLANITI, Sculptra ให้ผลลัพธ์นานถึง 2 ปี 
• Juvelook และ AestheFil อยู่ได้นานถึง 8-12 เดือน
• Ultracol อยู่ได้นานถึง 6 – 8 เดือน 
• Gouri อยู่ได้นานถึง 6 – 12 เดือน 

อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานของไหมน้ำยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น อายุของผู้รับการรักษา สภาพผิวก่อนการรักษา ปริมาณที่ฉีด ตำแหน่งที่ฉีด รวมถึงพฤติกรรมการดูแลผิวซึ่งจะช่วยยืดระยะเวลาของผลลัพธ์ของการฉีดไหมน้ำอยู่ได้นานขึ้น   

ไหมน้ำ อาการข้างเคียงมีอะไรบ้าง?

แม้ว่าการเลือกฉีดไหมน้ำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานก็อาจจะมีมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ อาการบวม รอยช้ำและรอยแดงบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักจะหายไปเองภายใน 1 – 3 วันหลังทำ หรือบางรายอาจมีอาการคัน เจ็บหรือรู้สึกแน่นตึงบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 2 – 3 วัน ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้องหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นจึงควรเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอาการข้างเคียง  

สรุปบทความ 

หากถามว่า ไหมน้ำยี่ห้อไหนดี การเลือกไหมน้ำและสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีส่วนประกอบหลักเป็นพอลิเมอร์ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและปลอดภัย โดยแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป โดยจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยและต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน โดยการฉีดไหมน้ำจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความเต่งตึงและฟื้นฟูผิวให้ดูแข็งแรง ทั้งนี้ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนภายใน 2 – 4 สัปดาห์และอยู่ได้นาน 1 – 2 ปีเลยทีเดียว  

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีส่วนประกอบหลักเป็นพอลิเมอร์ชนิด Poly L-lactic Acid (PLLA) คุณภาพสูงที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล Innovation Beauty ผู้นำเข้าจัดจำหน่ายไหมน้ำแบรนด์ PLANITI จากประเทศเกาหลี ตัวเลือกที่คุณมั่นใจได้ทั้งในด้านความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ด้วยมาตรฐาน THFDA, KFDA และ USFDA จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการดูแลผิวอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด