ไขมันเหนียงหรือไขมันใต้คาง เกิดจากอะไร
สำหรับไขมันเหนียงที่คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับตัวเอง คือไขมันที่สะสมบริเวณใต้คาง ทำให้ผิวหนังบริเวณคางจนถึงลำคอหย่อนคล้อยลงมา ไขมันใต้คางนั้นเกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนอ้วนหรือผอม บริเวณนี้จะเป็นบริเวณที่กำจัดไขมันออกได้ยาก เพราะไม่มีท่าออกกำลังกายที่สามารถกำจัดเหนียงได้โดยตรง เกิดจากอายุที่มากขึ้น และยังรวมไปถึงโครงสร้างของใบหน้าที่ทำให้มองเห็นเหนียงได้อย่างชัดเจน แต่สาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดเหนียง จะมีด้วยกันดังนี้
- การสะสมของไขมัน ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันที่สูงเกินไป เช่น ของทอด ของมัน อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง อาหารโซเดียมสูง ขนมกรุบกรอบ น้ำหวาน น้ำชงต่างๆ ถ้ารับประทานเกินความต้องการ ร่างกายกำจัดออกไม่หมดจะสะสมเป็นไขมันบริเวณใต้คาง
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น ใบหน้าของคนเราจะมีกล้ามเนื้อตั้งแต่บริเวณคอไปถึงบริเวณใบหน้าส่วนล่าง (Platysma) และเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นกล้ามเนื้อจะหย่อนคล้อย ทำให้กรอบหน้าไม่ชัด หากมองดูแล้วจะเหมือนกับมีเหนียงบริเวณใต้คางได้
- การใช้ชีวิต พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ว่าจะเป็นการนอนดึก การรับประทานอาหารตอนดึกทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่เต็มที่ไม่สามารถเผาผลาญแคลอรีได้ สำหรับสายดื่มสายปาร์ตึ้ก็เช่นกัน เพราะแอลกอฮอล์จะไปลดการทำงานของระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้น้อย ก็จะทำให้หน้าบวม จึงเป็นสาเหตุทำให้มีเหนียงได้
- กระดูกคางสั้น ในส่วนของคนที่มีคางสั้น จะทำให้เห็นเหนียงได้ชัดขึ้น เนื่องจากปลายคางเชื่อมต่อกับลำคอ หากดูรวมๆ แล้วจะเหมือนเป็นส่วนเดียวกัน และหากยิ่งก้มหน้าก็จะยิ่งเห็นคางสองชั้นหรือเหนียงได้ชัดเจนขึ้น
วิธีการเช็คว่าไขมันเหนียงเยอะเกินไป ทำอย่างไร
ไขมันเหนียงไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับเฉพาะคนอ้วนเท่านั้น คนผอมก็มีเหนียงหรือไขมันใต้คางได้เช่นกัน การที่จะรู้ได้ว่าเรามีเหนียงหรือไขมันใต้คางที่มากเกินไปจึงต้องใช้วิธีการสังเกต โดยวิธีการเช็คเหนียงนั้นจะทำด้วยการส่องกระจกมุมหน้าตรงลองก้มหน้าเล็กน้อย ถ้ามีไขมันสะสมที่ใต้คางก็จะเห็นคางซ้อนเป็นสองชั้นทันที หรือถ้าจะให้แน่ใจให้ลองหยิบเนื้อใต้คางก็จะสัมผัสถึงก้อนไขมันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
วิธีการลดไขมันเหนียง ในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง
1. เมโสแฟตเหนียง
การฉีดแฟตเหนียง เป็นวิธีลดเหนียงที่นิยมอันดับต้นๆ เพราะเป็นวิธีช่วยสลายไขมันได้อย่างตรงจุด โดยการฉีดเมโสแฟต จะเป็นการฉีดตัวยาที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเข้าไปช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คาง ที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดเหนียง คางสองชั้น ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมในปริมาณน้อยถึงปานกลาง
2. ร้อยไหมเหนียง
การร้อยไหมเหนียง เป็นการใส่ไหมเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวบริเวณที่มีเหนียง โดยไหมจะช่วยดึงยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย หลังร้อยเหนียงจะดูกระชับ กรอบหน้าชัดขึ้น เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ แต่การร้อยไหมจะไม่ได้เข้าไปช่วยสลายไขมันโดยตรง แต่จะเน้นไปที่การดึงยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยจนทำให้เกิดเป็นเหนียงเท่านั้น
3. Hifu ลดเหนียง
การทำ Hifu ลดเหนียง คือการใช้คลื่นอัลตราซาวด์เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ปล่อยเข้าชั้นผิว SMAS ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เหนียงที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้น โดยจะเห็นผลชัดเจนประมาณ 1 เดือน และอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน
เหมาะกับผู้ที่ผิวหลวมเหลวขาดคอลลาเจนและมีความหย่อนคล้อย เกิดเป็นเหนียงย้อย ไม่กระชับ รวมถึงมีความหย่อนคล้อยในระดับน้อยถึงปานกลาง และจะไม่เหมาะกับกับผู้ที่มีเหนียงเยอะจากการสะสมของไขมันส่วนเกินในปริมาณมาก
4. ดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมันเหนียง คือการใช้อุปกรณ์และท่อขนาดเล็กดูดไขมันส่วนเกินออกมา เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คางในปริมาณมาก และยังมีความยืดหยุ่นของผิวดี การดูดไขมันถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีลดเหนียงแบบเร่งด่วนที่เห็นผลชัดเจนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำว่าผิวใต้คางดูกระชับขึ้น เหนียงลดลง แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้น 2-3 วัน และต้องทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ อย่างเช่น รอยเขียวช้ำ อาการบวม ผิวไม่กระชับ เป็นต้น
5. ผ่าตัดลดเหนียง
ผ่าตัดลดเหนียง หรือผ่าตัดกระชับเหนียง คือการศัลยกรรมผ่าตัดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางที่สะสมทำให้เกิดเป็นเหนียง สามารถช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใต้คางและคอที่หย่อนคล้อย เป็นวิธีที่ลดเหนียงได้อย่างถาวร และเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คางในปริมาณที่มาก
แต่ข้อเสียคือจะมีรอยแผลเปิดบริเวณใต้คาง ซึ่งจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติเกิดแผลคีลอยด์ได้ง่าย อีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากดูแลตัวเองหลังทำได้ไม่ดี ดังนั้นหากต้องการลดเหนียงด้วยวิธีนี้แนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนรวมถึงปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ
6. วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติด้วยตัวเอง
วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติเป็นวิธีที่ทำได้ด้วยตนเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย และมีความปลอดภัยสูง แต่ต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์พอสมควร
- ออกกำลังกายลดเหนียง ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้คาง
- ควบคุมอาหาร ลดอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง รับประทานอาการที่มีประโยชน์ เพื่อลดการสะสมของไขมัน
- การนวดใบหน้า ใช้ลูกกลิ้งนวดหน้า กำลังนิยมในปัจจุบันคือ หินกัวซานวดหน้า เป็นการรักษาโรคของแพทย์แผนจีนโบราณที่ช่วยในการยกกระชับผิว ดีท็อกซ์สารพิษ กระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลือง ช่วยให้ผิวพรรณสดใส
- บริหารกล้ามเนื้อด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งสามารถช่วยลดเหนียง แต่ทั้งนี้ต้องระวังอย่าเคี้ยวบ่อยมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดปัญหากรามใหญ่แทนได้
เมโสแฟตเหนียง คืออะไร
เมโสเหนียง คือการฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันเข้าไปบริเวณเหนียง และทำให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน ทำให้ไขมันลดลง เหนียงเล็กลงอย่างเห็นผล โดยหลังฉีดเสร็จจะเห็นผลลัพธ์ประมาณ 10-20% ควรมีการกลับมาฉีดซ้ำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องกี่ครั้งถึงเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนนั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมบริเวณใต้คางของแต่ละบุคคล
การร้อยไหมเหนียง คืออะไร
การร้อยไหมเหนียง คือหัตถการที่ทำเพื่อยกกระชับผิวบริเวณใต้คางและเหนียง ใช้ไหมละลาย โดยจะใช้เทคนิคพิเศษร้อยไหมเข้าสู่ชั้นผิวหนังใต้เหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัด เส้นไหมจะทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวให้ตึงขึ้น ทำให้เหนียงที่หย่อนคล้อยกระชับและเต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้นนาน
ร้อยไหมเหนียง VS เมโสแฟต แบบไหนช่วยลดเหนียงได้ดีกว่ากัน?
เมโสแฟต เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไขมันส่วนเกิน ตัวยาจะเข้าไปช่วยให้ไขมันแตกตัว หรือสลายตัว หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเหนียงอย่างรวดเร็ว สามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ผู้ที่ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง แล้วเหนียงไม่ลด เป็นต้น
ร้อยไหมเหนียง เหมาะสำหรับผู้ที่รักษาด้วยการฉีดสลายไขมันมาก่อนหรือมีปริมาณไขมันเหนียงที่น้อย แต่ผิวไม่กระชับ การร้อยไหมจะช่วยยกกระชับผิวได้ดี เห็นผลทันทีหลังทำ แนะนำเป็นการรักษาร่วมกับการฉีดแฟต หรือทำหัตถการด้านอื่นๆที่เกี่ยวกับการสลายไขมัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ
สรุป
วิธีลดเหนียงนั้นมีหลากหลายวิธี โดยหลายคนอาจจะเริ่มต้นด้วยการลดเหนียงแบบธรรมชาติด้วยตัวเอง เช่น การออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร แต่ถ้าออกกำลังอย่างไรก็ไม่เห็นผล ก็อาจใช้วิธีลดเหนียงอื่นๆร่วมด้วยอย่างการฉีดแฟตเหนียงให้ปริมาณเหนียงลดลงแล้วตามด้วยการร้อยไหมยกกระชับผิว สิ่งสำคัญคือควรเลือกให้เหมาะสมกับสาเหตุของการสะสมไขมันเหนียงของเรา ซึ่งแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ เพื่อที่จะหาวิธีลดเหนียงที่ตรงจุดและเหมาะสมกับเราที่สุดนั่นเอง
