สาเหตุที่ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม หน้าเบี้ยว เป็นคลื่น
อาการไม่พึงประสงค์จากการร้อยไหม เช่น ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม หน้าเบี้ยว หรือเป็นคลื่น มีสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหา ดังนี้
- ตำแหน่งที่ร้อยไหม หากร้อยไหมผิดชั้น ผิดตำแหน่ง อาจทำให้เกิดพังผืดดึงรั้งใต้ชั้นผิวส่งผลให้เกิดรอยบุ๋ม เป็นคลื่นได้
- จำนวนเส้นไหมที่ใช้ร้อย การประเมินปัญหาของคนไข้ไม่ชัดเจน ใช้จำนวนเส้นไหมไม่เหมาะสมกับปัญหาใบหน้า
- แรงดึงเส้นไหม เกิดจากแพทย์ที่ไม่มีประสบการ์หรือประสบการณ์ทำหัตถการน้อย ทำให้ดึงไหมตึงเกินไปจนทำให้เกิดเห็นเป็นร่อง หรือรอยบุ๋ม
- ทิศทางการดึง หากดึงไหมไปในทิศทางที่ไม่เหมือนกัน ไม่สมดุลกันก็สามารถส่งผลให้เกิดหน้าเบี้ยว หน้าไม่เท่ากันได้
- ประสบการณ์แพทย์ แพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือประสบการณ์ในการร้อยไหมน้อย ส่งผลตั้งแต่การประเมินรูปหน้า ความหย่อนคล้อยของคนไข้ การเลือกใช้ประเภท ขนาด และจำนวนของเส้นไหม รวมไปถึงเทคนิคในการร้อย ทิศทาง และแรงดึงให้เหมาะสมกับคนไข้
- อาการของยาชา การบวมอักเสบ อาจเกิดจากอาการของยาชา หรืออาการบวมหลังร้อยไหม ทำให้เกิดใบหน้าไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว สามารถหายเองและกลับมาเป็นปกติได้
เทคนิคร้อยไหมที่ผิดพลาด ไหมคุณภาพต่ำ
เทคนิคร้อยไหมที่ผิดพลาด ไหมคุณภาพต่ำเกิดจากแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ความชำนาญเกี่ยวกับไหมมากพอ หรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานเลือกใช้ไหมที่ไม่ได้รับมาตรฐานมาใช้งาน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหา หรือผลข้างเคียงต่อคนไข้ตามมาภายหลังได้ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อจากไหมคุณภาพต่ำ ไม่มีมาตรฐาน ใบหน้าเบี้ยว ไม่เท่ากัน เป็นคลื่น รอยบุ๋ม รวมไปถึงไหมโผล่ เห็นไหมเป็นเส้นตามแนวการร้อย ดังนั้นการเลือกทำหัตถการแต่ละครั้งควรศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้น และศึกษาคลินิกที่จะเข้ารับบริการ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงตามมาภายหลัง และความปลอดภัยแก่ตัวคนไข้

รู้ได้ยังไงว่าใบหน้าเบี้ยวเกิดจากร้อยไหม?
สามารถสังเกตจากการมองด้วยสายตาได้ แต่หลังการร้อยไหมโดยปกติคนไข้อาจมีความรู้สึกว่าหลังร้อยไหมแล้วมีใบหน้าเบี้ยว ไม่เท่ากันบ้างซึ่งเกิดจากฤทธิ์ของยาชา และอาการบวมอักเสบหลังการร้อยไหมซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการชั่วคราวสามารถหายเองได้ แต่หากหลังจาก 5-7 วันอาการบวมเริ่มหายไปยังพบว่ามีอาการใบหน้าไม่เท่ากัน ใบหน้าเบี้ยวอยู่ควรรีบเข้ามาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปัญหา และหาแนวทางการแก้ไขต่อไป
เลือกไหมอย่างไรให้เหมาะกับรูปหน้า และลดโอกาสเกิดคลื่น
การเลือกใช้ไหมให้เหมาะสมควรเลือกใช้ไหมละลาย 100% เพื่อความปลอดภัย และไหมแต่ละชนิดก็มีวัตถุประสงค์การใช้งาน บริเวณ และจำนวนที่ใช้งานแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น
- การเติมร่องใต้ตา ลดริ้วรอยเล็กๆ เหมาะกับไหมเรียบเส้นเล็ก
- การปรับรูปหน้าเเละยกกระชับใบหน้าใช้ไหมเส้นใหญ่มีเงี่ยงเหมาะกว่าเนื่องจากช่วยยึดเกาะกับผิว
- เเก้มข้างซ้ายกับข้างขวา ไม่จำเป็นต้องใช้ไหมจำนวนเท่ากันเนื่องจากขนาดเเก้มไม่เท่ากัน
ซึ่งหากแพทย์มีความเชี่ยวชาญตั้งแต่การประเมินรูปหน้า ความหย่อนคล้อยของคนไข้ เลือกใช้ไหมได้เหมาะสมกับปัญหาที่พบ ใช้เทคนิคการร้อยที่ถูกต้อง สามารถลดโอกาสเกิดความเสี่ยงที่จะเกิดคลื่น หรือหน้าไม่เท่ากัน และรอยบุ๋มได้

พฤติกรรมหลังทำที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้หน้าบุ๋มหรือเบี้ยว
หลังร้อยไหมกระบวนการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวอาจยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ไหมยังไม่เกาะผิวได้ดี และเข้าที่จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะก่อเกิดผลที่ไม่พึงประสงค์ตามมา ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือการนอนคว่ำเพื่อไม่ให้เกิดการกดทับบริเวณที่ร้อยไหมแล้วส่งผลให้เกิดการอักเสบหรือทำให้ไหมเคลื่อนตัวได้
- ไม่ควรอ้าปากกว้างหรือเคี้ยวอาหารมากเกินไปในช่วงแรกหลังร้อยไหม อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของการรักษาเนื่องจากไหมที่ร้อยเข้าไปจะทำหน้าที่ดึงและยกกระชับผิว การอ้าปากกว้างอาจทำให้เกิดแรงดึงที่มากเกินไป ส่งผลให้ไหมเคลื่อนตัวหรือหลุดได้
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้า เพราะการนวดหรือการสัมผัสใบหน้าแรง ๆ อาจทำให้ไหมเคลื่อนตัวหรือเกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อบริเวณรอยแผล
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างหนักในช่วงแรกหลังร้อยไหมอาจส่งผลเสียต่อการฟื้นตัว เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเหงื่อที่ออกมากอาจกระทบต่อบริเวณที่ทำการรักษา
วิธีแก้ไขเมื่อ ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม หรือเป็นคลื่น
หลังร้อยไหมอาจเกิดรอยบุ๋ม หรือเป็นคลื่นได้ เกิดจากการดึงรั้งของเส้นไหม โดยปกติมักจะเกิดขึ้นกับคนไข้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก ซึ่งบางเคสอาจหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังจากร้อยไหมควรรีบปรึกษาคลินิก และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อประเมินอาการและหาแนวทางการแก้ไข้ต่อไป
สรุป
การเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังการร้อยไหม เช่น ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม หน้าเบี้ยว เป็นคลื่น หรือหน้าไม่เท่ากัน อาการเหล่านี้สามารถป้องกันได้โดยคนไข้ควรศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหัตถการ การเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านการร้อยไหม มีแพทย์ที่ชำนาญเฉพาะทาง เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอาการเหล่านี้ และหลังจากร้อยไหมควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด