ไขมันส่วนเกิน จัดการอย่างไรดี
ไขมันส่วนเกิน จัดการอย่างไรดี

ไขมันส่วนเกิน ปัญหากวนใจ จัดการอย่างไรดี? 

สารบัญ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไขมันส่วนเกินเป็นหนึ่งในปัญหาที่กวนใจใครหลาย ๆ คน ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกและความมั่นใจ แต่ยังเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพต่าง ๆ อีกด้วย แล้วไขมันเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และเราจะจัดการกับมันได้อย่างไรบ้าง? บทความนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปเจาะลึกถึงสาเหตุและวิธีจัดการกับไขมันเหล่านั้นได้อย่างตรงจุดกัน   

ไขมันส่วนเกินบนร่างกาย มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง 

  • พฤติกรรมการกิน การบริโภคอาหารที่มีแคลอรีสูง ไขมันสูง น้ำตาลสูงและอาหารแปรรูปในปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกิน เมื่อร่างกายได้รับพลังงานมากกว่าที่ใช้ไป พลังงานส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันและเก็บสะสมไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญของร่างกายมักจะทำงานช้าลง ทำให้การเผาผลาญแคลอรีเป็นไปได้ยากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันได้ง่ายกว่าเดิม
  • ฮอร์โมน ระดับฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปก็มีผลต่อการสะสมของไขมันได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ในผู้หญิง วัยหมดประจำเดือนอาจทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่การสะสมไขมันบริเวณหน้าท้องมากขึ้น
  • พันธุกรรม ปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีส่วนเกี่ยวข้อง บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ เนื่องจากลักษณะทางสรีรวิทยาที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
  • ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอและการไม่ออกกำลังกาย ก็สามารถส่งผลกระทบต่อระบบเผาผลาญและการสะสมของไขมันในร่างกายได้

ไขมันส่วนเกินบนร่างกาย ส่งผลเสียอย่างไร

การมีไขมันสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไป ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน ดังนี้

  • ขาดความมั่นใจ รูปร่างที่ไม่สมส่วนจากไขมันส่วนเกิน อาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ส่งผลต่อการเข้าสังคมและการดำเนินชีวิตประจำวัน
  • ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะไขมันที่สะสมในช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคข้อเข่าเสื่อม 

7 วิธีลดไขมันส่วนเกิน

1. ทานโปรตีนให้เพียงพอ 

ทานอาหารที่มีโปรตีนสูง

โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ การทานโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม ลดความอยากอาหารและช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อระหว่างการลดน้ำหนัก ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  

2. ดื่มน้ำสะอาด 

ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว

การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายมีประโยชน์หลายประการ รวมถึงการช่วยควบคุมความอยากอาหาร เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญแคลอรี และช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกาย ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน หรือตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล 

3. ไม่ทานของทอด ของมัน 

ไม่ทานของทอด ของมัน

อาหารทอดและอาหารที่มีไขมันสูงมักมีแคลอรีสูง การลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้จะช่วยลดปริมาณแคลอรีที่ได้รับในแต่ละวัน และช่วยให้ร่างกายดึงไขมันสะสมออกมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น 

4. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 

ม่ดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่มีแคลอรีสูง และยังส่งผลเสียต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย การลดหรืองดดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยให้การลดไขมันส่วนเกินเป็นไปได้ง่ายขึ้น 

5. ออกกำลังกาย 

วิ่งออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นหัวใจสำคัญของการลดไขมันส่วนเกิน การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ อาทิ การวิ่ง การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน มีส่วนช่วยเผาผลาญแคลอรีและไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายในระยะยาว  

6. สลายไขมันด้วยเมโสแฟต  

สลายไขมันด้วยแฟต

สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะส่วนและเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วขึ้น การสลายไขมันด้วยเมโสแฟตเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยแฟตเข้าไปช่วยกระตุ้นการสลายตัวของไขมันใต้ผิวหนังอย่างตรงจุด โดยสามารถทำหัตถการนี้ได้บริเวณที่มีไขมันสะสมตามร่างกาย เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง ต้นแขนหรือต้นขา ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน เห็นผลลัพธ์เร็วภายใน 1 – 2 สัปดาห์ และสามารถทำซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น 

7. ดูดไขมัน 

ดูดไขมัน

การดูดไขมันเป็นวิธีการทางการแพทย์ที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายอย่างถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมในบริเวณที่ลดได้ยากด้วยวิธีอื่น ๆ และต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะเวลาอันสั้น ทั้งนี้ ก็ไม่ใช้วิธีลดไขมันที่เห็นผลลัพธ์ถาวร หากไม่ดูแลตัวเองให้ดี ก็อาจทำให้เกิดไขมันสะสมได้อีกเช่นเดิม 

สรุปบทความ 

ไขมันส่วนเกินไม่เพียงส่งผลต่อรูปลักษณ์และความมั่นใจ แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพอีกด้วย เพราะฉะนั้น การเข้าใจสาเหตุของการเกิดไขมัน เช่น พฤติกรรมการกิน อายุที่เพิ่มขึ้น ฮอร์โมนและไลฟ์สไตล์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการจัดการอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างเมโสแฟตหรือการดูดไขมัน ก็จะช่วยให้คุณกลับมามั่นใจได้มากยิ่งขึ้น 

เรื่องล่าสุด
ร้อยไหมน้องสาว ด้วย K2 PLUS? เผยเคล็ดลับความกระชับบริเวณจุดซ่อนเร้น
ร้อยไหม

ร้อยไหมน้องสาวด้วย K2 PLUS? เผยเคล็ดลับความกระชับบริเวณจุดซ่อนเร้น

เรื่องจุดซ่อนเร้น หรืออวัยวะเพศหญิงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้หญิงให้ความสำคัญมากขึ้น ในปัจจุบันหลาย ๆ ท่านจึงเริ่มมองหาหัตถการในการดูแลจุดซ่อนเร้น เพื่อแก้ปัญหาที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการใส่กางเกงรัดรูป

ร้อยไหมเหนียง VS เมโสแฟต แบบไหนช่วยลดเหนียงได้ดีกว่ากัน?
ร้อยไหม

ร้อยไหมเหนียง VS เมโสแฟต แบบไหนช่วยลดเหนียงได้ดีกว่ากัน?

ปัจจุบันวิธีการลดเหนียงมีอยู่ด้วยกันหลากหลายวิธี นอกจากการดูแลตัวเองในเรื่องของการทานอาหารและการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักแล้ว สามารถแก้ไขด้วยหัตถการทางการแพทย์ที่จะช่วยลดเหนียงได้เร็วขึ้นอย่างการร้อยไหมเหนียง หรือการฉีดเมโสแฟตเหนียง แต่จะเลือกหัตถการแบบไหนที่จะช่วยลดเหนียงได้ดีกว่ากัน เลือกแบบไหนให้เหมาะสม มาหาข้อสรุปในบทความนี้กันค่ะ

3 ขั้นตอน ตรวจสอบสินค้าแท้ ไหม K2 PLUS เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ และความปลอดภัย
ร้อยไหม

3 ขั้นตอน ตรวจสอบสินค้าแท้ไหม K2 PLUS เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ และความปลอดภัย

ในยุคที่ความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัย บริษัท อินโนเวชั่น บิวตี้ จึงให้ความสำคัญกับการป้องกันการปลอมแปลงสินค้า พร้อมยกระดับมาตรฐานความเชื่อมั่นของผู้ใช้