ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไขมันส่วนเกินเป็นหนึ่งในปัญหาที่กวนใจใครหลาย ๆ คน ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกและความมั่นใจ แต่ยังเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพต่าง ๆ อีกด้วย แล้วไขมันเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และเราจะจัดการกับมันได้อย่างไรบ้าง? บทความนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปเจาะลึกถึงสาเหตุและวิธีจัดการกับไขมันเหล่านั้นได้อย่างตรงจุดกัน
ไขมันส่วนเกินบนร่างกาย มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง
- พฤติกรรมการกิน การบริโภคอาหารที่มีแคลอรีสูง ไขมันสูง น้ำตาลสูงและอาหารแปรรูปในปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกิน เมื่อร่างกายได้รับพลังงานมากกว่าที่ใช้ไป พลังงานส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันและเก็บสะสมไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญของร่างกายมักจะทำงานช้าลง ทำให้การเผาผลาญแคลอรีเป็นไปได้ยากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันได้ง่ายกว่าเดิม
- ฮอร์โมน ระดับฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปก็มีผลต่อการสะสมของไขมันได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ในผู้หญิง วัยหมดประจำเดือนอาจทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่การสะสมไขมันบริเวณหน้าท้องมากขึ้น
- พันธุกรรม ปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีส่วนเกี่ยวข้อง บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ เนื่องจากลักษณะทางสรีรวิทยาที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
- ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอและการไม่ออกกำลังกาย ก็สามารถส่งผลกระทบต่อระบบเผาผลาญและการสะสมของไขมันในร่างกายได้
ไขมันส่วนเกินบนร่างกาย ส่งผลเสียอย่างไร
การมีไขมันสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไป ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน ดังนี้
- ขาดความมั่นใจ รูปร่างที่ไม่สมส่วนจากไขมันส่วนเกิน อาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ส่งผลต่อการเข้าสังคมและการดำเนินชีวิตประจำวัน
- ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะไขมันที่สะสมในช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคข้อเข่าเสื่อม
7 วิธีลดไขมันส่วนเกิน
1. ทานโปรตีนให้เพียงพอ

โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ การทานโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม ลดความอยากอาหารและช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อระหว่างการลดน้ำหนัก ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ดื่มน้ำสะอาด

การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายมีประโยชน์หลายประการ รวมถึงการช่วยควบคุมความอยากอาหาร เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญแคลอรี และช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกาย ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน หรือตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
3. ไม่ทานของทอด ของมัน

อาหารทอดและอาหารที่มีไขมันสูงมักมีแคลอรีสูง การลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้จะช่วยลดปริมาณแคลอรีที่ได้รับในแต่ละวัน และช่วยให้ร่างกายดึงไขมันสะสมออกมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น
4. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่มีแคลอรีสูง และยังส่งผลเสียต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย การลดหรืองดดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยให้การลดไขมันส่วนเกินเป็นไปได้ง่ายขึ้น
5. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นหัวใจสำคัญของการลดไขมันส่วนเกิน การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ อาทิ การวิ่ง การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน มีส่วนช่วยเผาผลาญแคลอรีและไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายในระยะยาว
6. สลายไขมันด้วยเมโสแฟต

สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะส่วนและเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วขึ้น การสลายไขมันด้วยเมโสแฟตเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยแฟตเข้าไปช่วยกระตุ้นการสลายตัวของไขมันใต้ผิวหนังอย่างตรงจุด โดยสามารถทำหัตถการนี้ได้บริเวณที่มีไขมันสะสมตามร่างกาย เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง ต้นแขนหรือต้นขา ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน เห็นผลลัพธ์เร็วภายใน 1 – 2 สัปดาห์ และสามารถทำซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
7. ดูดไขมัน

การดูดไขมันเป็นวิธีการทางการแพทย์ที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายอย่างถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมในบริเวณที่ลดได้ยากด้วยวิธีอื่น ๆ และต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะเวลาอันสั้น ทั้งนี้ ก็ไม่ใช้วิธีลดไขมันที่เห็นผลลัพธ์ถาวร หากไม่ดูแลตัวเองให้ดี ก็อาจทำให้เกิดไขมันสะสมได้อีกเช่นเดิม
สรุปบทความ
ไขมันส่วนเกินไม่เพียงส่งผลต่อรูปลักษณ์และความมั่นใจ แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพอีกด้วย เพราะฉะนั้น การเข้าใจสาเหตุของการเกิดไขมัน เช่น พฤติกรรมการกิน อายุที่เพิ่มขึ้น ฮอร์โมนและไลฟ์สไตล์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการจัดการอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างเมโสแฟตหรือการดูดไขมัน ก็จะช่วยให้คุณกลับมามั่นใจได้มากยิ่งขึ้น