
ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat)
เราสามารถใช้มือบีบผิวแล้วยกขึ้นมาเป็นก้อนได้ ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง หรือ Subcutaneous Fat คือไขมันที่อยู่บริเวณใต้ชั้นผิวหนัง เป็นไขมันที่ เวลาเราหยิบจับที่ผิวขึ้นมาได้ เป็นก้อนนั่นเอง ชั้นนี้จะเป็นพลังงานสำรองให้กับร่างกายยามขาดแคลนอาหาร สามารถใช้เครื่องวัดไขมันบีบที่ผิวหนังเพื่อบอกปริมาณไขมันที่มี (total body fat) ของร่างกาย ในทางสุขภาพแล้วไขมันใต้ผิวหนังในบริเวณต้นขา และสะโพก ไม่ได้มีอันตรายหรือสร้างปัญหาให้กับสุขภาพเท่ากับไขมันในบริเวณหน้าท้อง และไขมันที่อยู่ลึกกว่าที่ เรียกว่า Visceral fat

ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)
เป็นหรือไขมันที่อยู่ลึกกว่า Subcutaneous Fat โดย Visceral Fat เป็นไขมันอันตรายที่สะสมอยู่ในช่องท้องที่เกิดจากการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยเกินไป หรือการที่ร่างกายรับสารอาหารประเภทไขมันเข้าสู่ร่างกายจำนวนมาก และร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมดในแต่ละวัน (คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลที่ได้รับมากเกินก็จะเปลี่ยนรูปเป็นไขมันเช่นกัน) แน่นอนว่าสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะมีไขมันในส่วนนี้สะสมอยู่น้อย ถึงแม้ว่าคนๆ นั้นจะมีน้ำหนักมากก็ตาม ไขมันส่วนนี้สามารถละลายเข้าสู่กระแสเลือดไปสะสมตามอวัยวะต่างๆ และหากเป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัวยังสามารถที่จะชักนำให้ร่างกายสร้างสารก่อการอักเสบเข้าสู่กระแสเลือดได้ ทำให้เกิดการอักเสบที่ผนังหลอดเลือดทั่วร่างกาย และเนื่องจากมันอยู่ติดอวัยวะภายใน จึงเหมือนกับอวัยวะภายในของเราถูกแช่อิ่มด้วยไขมันที่คอยขัดขวางทางเดินของเลือดไม่ให้ไปหล่อเลี้ยงเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งอันตรายมาก ไขมันชนิดนี้สามารถเกิดได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนผอมหรืออ้วน
สรุป
การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการลดไขมันส่วนนี้ โดยเฉพาะการออกกำลังกายประเภทแอโรบิค เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เป็นต้น จะช่วยลดไขมันส่วนนี้อย่างได้ผล แต่สมัยนี้มีทางเลือกใหม่ในการกำจัดไขมันเหล่านี้ได้ง่ายกว่าที่คิดนั้นคือ การเดินเข้าคลินิกความงาม แจ้งปัญหาที่เรากำลังเผชิญ คุณจะได้ตัวเลือกในการกำจัดไขมันหลายสเต็ปเลยทีเดียว รู้แบบนี้แล้วไปกำจัดไขมันกันเลย…..
