ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม เกิดจากอะไร
อาการหน้าบุ๋มหลังร้อยไหม ไม่ใช่เรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกคน แต่เป็นผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ โดยมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากปัจจัยเหล่านี้
เทคนิคการร้อยไหมไม่เหมาะกับรูปหน้า
การร้อยไหมมีเทคนิคที่หลากหลาย และเป็นหัตถการที่จำเป็นต้องอาศัยการวางเส้นไหมในชั้นผิวที่ถูกต้อง หากแพทย์วางไหมตื้นเกินไป หรือใช้เทคนิคการดึงที่ตึงมากเกินความจำเป็น อาจทำให้ผิวหนังถูกดึงรั้งจนเกิดเป็นรอยบุ๋มหรือรอยยุบตัวลงไปได้ โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบางและมีการขยับบ่อย ๆ เช่น แก้ม หรือร่องน้ำหมาก เป็นต้น
ปริมาณไหมที่ใช้ไม่เหมาะสม
การใช้จำนวนเส้นไหมที่ไม่สมดุลกับปัญหาผิว และโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ การใช้ไหมน้อยเกินไปในบริเวณที่ต้องการแรงยกสูงอาจไม่เห็นผล แต่การใช้ไหมที่มากเกินความจำเป็นในจุดเดียว อาจทำให้เกิดแรงดึงที่หนาแน่นและส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นยุบตัวลงเป็นรอยบุ๋มได้เช่นกัน
รับบริการกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
สาเหตุทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น มักมีต้นตอมาจากการร้อยไหมกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ โดยปกติแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินโครงสร้างใบหน้า เลือกชนิดและจำนวนไหมได้อย่างเหมาะสม รวมถึงใช้เทคนิคการวางไหมที่ถูกต้อง เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงให้ได้มากที่สุด ดังนั้น การเลือกร้อยไหมที่คลินิกที่ได้มาตรฐาน และทำหัตถการกับแพทย์ที่มีประสบการณ์จึงเป็นหัวใจสำคัญที่สุด

ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม จะหายไหม?
สำหรับคำถามที่หลายคนกังวลใจที่สุดว่า ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋มจะหายไหมนั้น ข่าวดีก็คือ โดยส่วนใหญ่แล้วรอยบุ๋มลักษณะนี้ สามารถหายได้เองภายใน 2 – 4 สัปดาห์ หลังทำหัตถการ เนื่องจากในช่วงแรก ผิวหนังและเนื้อเยื่อยังต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับเส้นไหมที่ถูกร้อยเข้าไป เมื่อเส้นไหมเริ่มเข้าที่และร่างกายได้ปรับสภาพแล้ว ผิวบริเวณที่เป็นรอยบุ๋มจะค่อย ๆ คลายตัวและฟูขึ้นกลับมาเรียบเนียนเป็นปกตินั่นเอง
หน้าบุ๋มแบบไหน ถึงควรจะรีบไปพบแพทย์
แม้ว่ารอยบุ๋มส่วนใหญ่จะหายได้เอง แต่ก็มีสัญญาณเตือนบางอย่างที่หากเกิดขึ้น ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการทันที ซึ่งถือเป็นปัญหาหลังร้อยไหมที่ไม่ควรมองข้าม
- รอยบุ๋มลึกมากผิดปกติ และไม่มีท่าทีจะดีขึ้นหลังผ่านไป 1 – 2 สัปดาห์
- มีอาการเจ็บปวด บริเวณรอยบุ๋มอย่างรุนแรง
- ผิวหนังบริเวณนั้นมีลักษณะบวม แดง ร้อนหรือมีหนอง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือติดเชื้อ
- รอยบุ๋มมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากวันแรก ๆ
ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม มีวิธีการรักษาอย่างไร
หากรอยบุ๋มไม่หายไปเอง หรือมีลักษณะที่น่ากังวล แพทย์จะมีวิธีการรักษาและแก้ไขได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ ดังนี้
- นวดคลึงโดยแพทย์ ในกรณีที่รอยบุ๋มไม่ลึกมาก แพทย์อาจใช้วิธีนวดคลึงด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อช่วยคลายปมไหมที่ดึงรั้งผิวหนังอยู่ ข้อควรระวัง คือห้ามทำด้วยตัวเองเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ไหมเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งและเกิดปัญหาอื่นตามมาได้
- ใช้เครื่องมือทางการแพทย์ แพทย์อาจพิจารณาใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency) หรือเลเซอร์พลังงานต่ำ เพื่อส่งพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง ช่วยคลายการดึงรั้งของพังผืดและเส้นไหม ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- สลายไหม สำหรับไหมบางชนิดที่สามารถสลายได้ หากรอยบุ๋มเกิดจากการดึงรั้งที่ผิดปกติ แพทย์อาจพิจารณาใช้ตัวยาเพื่อสลายไหมเฉพาะจุดนั้น ๆ
- ผ่าตัดเล็กเพื่อเลาะไหมออก เป็นวิธีสุดท้ายที่จะใช้ในกรณีที่ปัญหารุนแรง และไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีอื่นได้ โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเล็ก ๆ เพื่อนำเส้นไหมที่เป็นสาเหตุของปัญหาออกไป

สรุปบทความ
อาการหน้าบุ๋มหลังร้อยไหมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวจนเกินไป เพราะส่วนใหญ่มักจะหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ สำหรับใครที่สงสัยว่า ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม จะหายไหม คำตอบคือ “หายได้” หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก และควรคำนึงถึงสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันปัญหานี้ คือการศึกษาข้อมูลและเลือกรับบริการจากคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ เพื่อให้แพทย์สามารถประเมิน วางแผนการรักษา และใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับใบหน้าของเรามากที่สุด เพื่อผลลัพธ์การร้อยไหมที่สวยงาม ยกกระชับและปลอดภัย