บทความ สิวเกิดจากอะไร
บทความ สิวเกิดจากอะไร

สิวเกิดจากอะไร ? รักษายังไง ? ให้ไม่กลับมาเป็นอีก !

สิว คือ อาการที่เกิดจากการอักเสบของรูขุมขน และต่อมไขมัน มักจะเกิดขึ้นบริเวณที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่อยู่เยอะอย่างเช่น บริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอกและแผ่นหลัง โดยมักจะพบมากในช่วงวัยรุ่นตั้งแต่อายุ 14-25 ปี และจะค่อยๆหายไปเมื่ออายุมากขึ้น แต่ในบางคนสามารถเป็นๆหายๆขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิต สภาพหน้า และปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย

สารบัญ

5. รักษาสิวได้อย่างไรบ้าง?

5.1. ใช้ยารักษา

5.1.1. ยาชนิดทา : ยาแก้สิวส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมของกรดบางชนิดที่ช่วยกำจัดสิว หรือควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวอักเสบ

Tretinoin : เป็นกลุ่มวิตามิน เอ ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ช่วยลดการอุดตันและก่อตัวของสิว และลดอาการอักเสบของสิวได้ เมื่อทาแล้วจะทำให้ผิวหนังบางลงควรหลีกเลี่ยงการโดนแดด

Adapalene : เป็นกลุ่มวิตามิน เอ ที่สามารถช่วยลดอาการบวมและอาการอักเสบที่ผิวหนัง รวมถึงลดการเกิดสิวได้ ยาชนิดนี้ยังสามารถทนทานต่อแสงแดดได้และยังสามารถใช้รวมกับยากลุ่ม Benzoyl peroxide ได้

Benzoyl peroxide : ช่วยฆ่าเชื้อและควบคุมเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวอักเสบ นอกจากนี้ยังสามารถลดปริมาณไขมันบนชั้นผิวหนังได้

Azelaic acid : เป็นตัวยาที่ออกฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes ทำให้ลดการเกิดสิวอักเสบ และยังช่วยลดการสร้างเม็ดสีผ่านการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งจะช่วยลดรอยดำหลังการอักเสบ

Clindamycin : เป็นกลุ่มยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษาสิวมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ Propionibacterium acnes

5.1.2. ยาชนิดทาน

Doxycycline : เป็นยาปฏิชีวนะกลุ่ม Tetracycline ที่ใช้ในการรักษาสิวโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียทั้งเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกและแบคทีเรียแกรมลบที่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดสิวอักเสบและยังช่วยลดความเข้มข้นของกรดไขมันอิสระก็จะช่วยให้จำนวนเชื้อแบคทีเรียCutibacterium acnes ลดลงไปด้วย ควรระมัดระวังในการใช้ยาในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต

Cephalexin : เป็นยาที่ช่วยในการลดอาการอักเสบ

Isotretinoin : เป็นกลุ่มวิตามิน เอ ที่ช่วยในการลดแบคทีเรียและลดอาการอักเสบได้ ยาตัวนี้มีผลข้างเคียงที่อาจทำให้ไขมันในเลือดสูงและเกิดการอักเสบที่ตับได้จึงควรใช้ในกรณีที่มีสิวอักเสบมาก ต้องจ่ายยาโดยแพทย์ผิวหนังเท่านั้น ห้ามใช้กับสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร เพราะอาจทำให้ทารกเกิดความผิดปกติได้

5.2. การปรับฮอร์โมนด้วยยาคุมกำเนิด

การใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อลดฮอร์โมนเพศชายที่กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนังที่มากเกินไปแต่ต้องมีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเพื่อให้ทราบถึงผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดที่อาจเกิดขึ้น

5.3. การติดแผ่นแปะสิว

เป็นวิธีที่ช่วยในการรักษาสิวหนองได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยตัวแผ่นดูดจะดึงน้ำ ของเหลว และไขมันส่วนเกินออกมาช่วยให้สิวแห้งง่ายขึ้น เป็นตัวช่วยที่ดีในการเลี่ยงการสัมผัสระหว่างของเรากับสิวโดยตรงแล้ว ยังช่วบลดการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่อาจติดมากับมือของเราได้ มีข้อแนะนำ คือ แผ่นแปะสามารถใช้ได้กับสิวอักเสบที่เกิดบริเวณผิวหนังชั้นบนเท่านั้น ถ้าสิวอักเสบอยู่ลึกลงไปจะไม่สามารถใช้แผ่นแปะได้

แผ่นแปะสิว

5.4. การฉีด Mesotherapy

เป็นการฉีดวิตามินหรือสารสกัดต่างๆลงไปในชั้นผิวหนังเพื่อเข้าไปฟื้นฟู ซ่อมแซม บำรุง รวมถึงบางสารสกัดก็อาจมีฤทธิ์ในการรักษาสิวด้วย จึงเป็นการรักษาพร้อมกับบำรุงให้ผิวบริเวณที่เป็นสิวฟื้นตัวหลังการยุบของสิว

5.5. เครื่องมือเสริมความงาม

5.5.1 การเลเซอร์สิว

การใช้เลเซอร์รักษาสิวเป็นการรักษาที่ทำให้หายขาดได้แน่นอนแต่จะมีผลข้างเคียงกับผิวบริเวณที่ทำการเลเซอร์ เช่น ทำให้ผิวบาง แพ้แสง เกิดการระคายเคืองได้ง่าย เกิดฝ้า กระ จึงทำให้การทำเลเซอร์ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

5.5.2 การใช้เครื่องสุญญากาศดูดสิว

เครื่องดูดสุญญากาศที่จะทำการดูดผิวขึ้นมาแล้วฉายแสงเข้มข้นสูง (ความยาวคลื่น 400-550 nm) ช่วยลดแบคทีเรียที่ก่อสิว และทำความสะอาดรูขุมขนนั้น ลดการอุดตัน

5.5.3 การใช้เครื่องฉายแสง LED

เครื่องฉายแสง LED (Light Emitting Diode) เป็นการใช้แสงที่มีความยาวคลื่นต่างๆฉายไปทั่วบริเวณที่มีสิวเพื่อการกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการอักเสบ รักษาหลุมสิว โดยความยาวคลื่นที่มักจะนำมาใช้ในการรักษาสิวคือ

แสงสีฟ้า (Blue light) มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 380-480 nm มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes และช่วยลดการอักเสบของสิวได้

การใช้เครื่องฉายแสง
วิธีการรักษาสิวข้อดีข้อเสียเหมาะกับสิวชนิดใดประสิทธิภาพในการรักษา(-/5)คะแนนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ (-/5)
​1.ยาชนิดทา– จำกัดพื้นที่การรักษาสิวได้ – ลดการเกิดผลข้างเคียงได้– ฤทธิ์ของยาอาจได้ผลไม่ดีเท่าที่ควรเนื่องจากสภาพแวดล้อมภายนอกการดูดซึมของยา, การสัมผัสสิ่งต่างๆ- ผิวแห้ง– Whitehead comedone – Blackhead comedone – Papule – Pustule

2.ยาชนิดทาน– สะดวกในการรักษา – ผลการรักษากระจายได้ทั่วถึงแทบทุกบริเวณ-ถ้าเกิดผลข้างเคียงอาจเกิดเป็นวงกว้าง – ระยะยาวอาจมีปัญหาต่อตับ – ผิวแห้ง ปากแห้ง– Whitehead comedone- Blackhead comedone- Papule- Pustule- Nodule- Cyst acne
​3.ยาคุมกำเนิด– ปริมาณการผลิตไขมันใต้ผิวหนังลดลง – ลดการสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย– อาจทำให้น้ำหนักตัวขึ้น หน้าอกขยายใหญ่ขึ้น – วิงเวียนศีรษะ – ผิวไวต่อแสงแดด อาจะเกิดฝ้ากระได้ง่าย– Whitehead comedone – Blackhead comedone – Papule – Pustule
4.แผ่นแปะสิว– สะดวก – ไม่เจ็บ– ระมัดระวังขณะเอาแผ่นแปะออกอาจเกิดการกระจายของแบคทีเรียที่มากับหนอง– Whitehead comedone- Blackhead comedone- Papule
5.การฉีด Mesotherapy​- ลดอาการอักเสบฟื้นฟู บำรุงผิว​- รอยบวมเข็มจากการฉีด – ผื่นแดง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การอักเสบติดเชื้อ การแพ้ยาชา ผื่นแดงจากรอยเข็ม- รอยช้ำหลังฉีด​- Whitehead comedone – Blackhead comedone – Papule – Pustule
6.การเลเซอร์สิว– ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย – ทำลายต่อมไขมันบางส่วน – ช่วยให้สิวยุบเร็ว – ป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้ดี​- อาจเกิดสะเก็ดหลังการทำเลเซอร์ – อาจทำให้เกิดอาการแสบร้อน บวมแดง ผิวบอบบาง แพ้ง่าย และไวต่อแสงแดด– Whitehead comedone – Blackhead comedone – Papule – Pustule – Nodule – Cyst acne

​7.การใช้เครื่องสูญญากาศดูดสิว– ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้ดี​- ผิวที่ผ่านการดูด อาจมีการระคายเคือง อาจเกิดการแพ้ได้– Whitehead comedone – Blackhead comedone – Papule

8.การใช้เครื่องฉายแสง LED (แสงสีน้ำเงิน)– ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นต้นเหตุในการเกิดสิวอักเสบ – ควบคุมความมันบนใบหน้า​- อาจเกิดอาการแสบร้อน ระคายเคือง หรือผิวลอก– Whitehead comedone – Blackhead comedone – Papule – Pustule

เรื่องล่าสุด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด