ไขความลับ! ปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ
ไขความลับ! ปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ

ไขความลับ! ปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดูแลรักษายังไง ? ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

ไขความลับ! ปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดูแลรักษายังไง ? ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ เม็ดสีผิว (melanin pigment) ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสี UV ถูกสร้างขึ้นภายในออร์แกเนลล์ที่มีชื่อว่าเมลาโนโซม

สารบัญ

ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดฝ้า กระ

  • แสงแดด
    เป็นเป็นสาเหตุหลักๆ ของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ เพราะสิ่งที่มาพร้อมกับแสงแดดคือรังสี UVA UVB โดยเฉพาะช่วง 10.00-14.00 น. ที่แสงยูวีจะแรงมากอันตรายต่อผิวหนังและดวงตา เพราะรังสียูวีในแสงแดดก่อให้เกิดอนุมูลอิสระจำนวนมากซึ่งอาจไปกระตุ้นเซลล์เม็ดสีให้ทำงานเพิ่มขึ้นมาก เกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำตามมาในที่สุด นอกจากแสงแดดแล้ว แสงสีฟ้าจากจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ก็กระตุ้นการสร้างเม็ดสีได้เช่นกัน
  • พันธุกรรม
    มีรายงานว่าพันธุกรรมส่งผลต่อฝ้าและกระได้ถึงเกือบ 50% หากมีคนในครอบครัวมีฝ้ากระก็มีแนวโน้มที่เราจะเกิดฝ้ากระสูง
  • ฮอร์โมน
    การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ในภาวะตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน การทานยาคุมกำเนิด เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้าได้ มักพบฝ้าได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย สำหรับฝ้าที่เกิดในช่วงตั้งครรภ์ที่พบมากโดยเฉพาะช่วงไตรมาส 3 เมื่อคลอดแล้ว ฝ้าจะค่อยๆ จางลงโดยใช้ระยะเวลาเป็นเดือนๆ และอาจเหลือร่องรอยดำไว้บ้าง ในส่วนของยาคุมกำเนิดมักมีฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบ ซึ่งอาจส่งผลกระตุ้นการเกิดฝ้าได้ ในคนที่ทานยาคุมกำเนิดติดต่อกัน 6 เดือนขึ้นไป มักมีปัญหาเรื่องฝ้า
  • อายุมากขึ้น
    ปัญหาฝ้ากระที่เกิดเมื่ออายุมากขึ้นเกิดจากกลไกการผลัดเซลล์ผิวของร่างกายทำงานได้ช้าลง รวมไปถึงการเผชิญกับแสงแดด มลภาวะและสภาพแวดล้อมที่คอยทำร้ายผิวมาเป็นเวลานานด้วยเช่นกัน
  • เครื่องสำอาง
    ในเครื่องสำอางบางชนิดมีการเจือปนสารเคมีหรือสารอันตรายต่อผิวหน้า ทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง เกิดรอยด่างดำสะสมบนใบหน้าและอาจทำให้เกิดเป็นฝ้าได้

วิธีป้องกันและลดการกลับมาเป็นซ้ำ

ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีใดที่จะรักษาฝ้าให้หายขาดได้ การดูแลตัวเองเพื่อลดการกลับมาเป็นซ้ำจึงสำคัญมากเช่นกัน

  • ปกป้องผิวจากแสงแดดโดยทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันการเกิดฝ้า กระ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด กางร่มหรือสวมหมวกเมื่อต้องออกไปเจอแดด
  • หลีกเลี่ยงแสงจากหน้าจอมือถือ แสงไฟ แสงจากทีวี
  • หากเป็นผู้ที่มีปัญหาผิวเรื่องฝ้าอยู่แล้วควรมีการปรึกษาแพทย์เรื่องการใช้ยาบางประเภทเนื่องจากตัวยาบางชนิดอาจส่งผลกระทบให้เกิดฝ้ามากขึ้นหรือเข้มกว่าเดิมได้
  • คอยสังเกตว่าฝ้านั้นเกิดจากยาคุมกำเนิดหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นควรพบแพทย์เพื่อเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิด

วิธีรักษา

การรักษาฝ้ากระด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียวอาจได้ผลไม่ดีนัก จึงอาจพิจารณาใช้หลายวิธีร่วมกัน

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยลดเลือนจุดด่างดำ เช่น Vitamin C, Arbutin, Kojic acid, Niacinamide หรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Glycolic Acid, Salicylic acid, AHA, BHA ซึ่งเป็นการทำให้ฝ้าจางลงได้ชั่วคราว ถ้าหยุดใช้ฝ้าก็มีโอกาสกลับมาได้

ข้อควรระวัง

  • ควรระวังการใช้ผลิตภัณฑ์หลายตัวร่วมกัน อาจทำให้เกิดการแพ้ได้

อาการแทรกซ้อน

  • พบได้น้อย แต่อาจทำให้ผิวระคายเคืองง่ายหรือมีอาการแพ้ได้ในบางราย

การผลัดผิวด้วยกรดผลไม้ (Chemical Peeling)

เป็นการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกหรือเซลล์หนังกำพร้าที่ตายไปแล้วออกไป หลังจากผิวเก่าถูกผลัดออกไปก็จะทำให้ได้ผิวใหม่เกิดขึ้นมา ทำให้รอยดำจุดด่างดำลดเลือนลง แต่ต้องทำต่อเนื่องและเห็นผลแค่ฝ้ากระในผิวชั้นตื้นๆ เท่านั้น หลังทำอาจทำให้ผิวไวต่อแดดมากขึ้นในระยะสั้นๆ 1 สัปดาห์แรกหลังทำ จึงควรเลี่ยงแสงแดด

ข้อควรระวัง

  • ถ้ามีประวัติการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้า ควรรอให้แผลหายสนิทก่อน
  • ไม่ควรลอกหน้าในคนที่กินยาคุมกำเนิด เพราะจะยิ่งทำให้รอยคล้ำหลังลอกเข้มมากกว่าปกติ
  • หลังทำไม่ควรออกไปเจอแสงจ้า เพราะกรดเหล่านี้ทำให้ผิวไวต่อแดดมากขึ้น
  • ควรระวังการลอกหน้าในผู้ที่กินยากรดวิตามินเอ (isotretinoin) อาจทำให้ผิวแห้งกว่าเดิม และอาจลอกเป็นขุยได้

อาการแทรกซ้อน

  • ผิวอาจคล้ำขึ้น หลังทำจึงควรเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดเป็นประจำ
  • อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย หากกระบวนการทำไม่สะอาด
  • ผิวแดงระคายเคือง มักจางหายไปใน 30-90 วัน
  • ผิวอาจแห้ง ลอกเป็นขุย
  • ในบางรายมีสิวเห่อหลังทำได้

เรื่องล่าสุด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด