ทำไมผมร่วงจาก Minoxidil
ทำไมผมร่วงจาก Minoxidil

ไขข้อข้องใจ! ทำไมผมร่วงจาก Minoxidil จึงเป็นสัญญาณที่ดีในการกระตุ้นการงอกของเส้นผม

ใช้ Minoxidil แล้วผมร่วง ไม่ต้องตกใจไปค่ะ! หลายคนอาจสงสัย ว่าทำไมยาที่ใช้รักษาผมร่วงกลับทำให้ผมร่วงได้มากกว่าเดิม แต่รู้หรือไม่ว่า การหลุดร่วงของเส้นผมในช่วงแรกของการใช้ Minoxidil อาจเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งบอกว่ายาตัวนี้กำลังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว มาไขข้อข้องใจกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ในบทความด้านล่างนี้เลยค่ะ!

สารบัญ

Minoxidil คืออะไร ?

Minoxidil คือ เป็นยาที่ใช้ในการต้านความดันโลหิตสูง โดยออกฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือด แต่พบว่ามีผลข้างเคียงที่ทาให้เกิดการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ทาให้เกิดการงอกขึ้นใหม่ของเส้นผม ดังนั้นจึงได้มีการพัฒนามาใช้ในรูปแบบต่าง ๆ สำหรับการรักษาผมร่วง โดยปกติจะใช้ในการรักษาอาการผมร่วงจากแอนโดรเจนิกอโลเพเชีย (androgenic alopecia) หรือที่เรียกว่า “ผมร่วงจากพันธุกรรม” ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง นั่นเอง

ภาวะผมร่วง VS ผมร่วงจากการใช้ Minoxidil 

การร่วงของเส้นผมเป็นเรื่องปกติของวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยปกติแล้วสามารถสูญเสียเส้นผมได้ระหว่าง 50 ถึง 100 เส้นต่อวัน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อรากผมมีระยะที่พร้อมจะงอกเส้นผมใหม่ขึ้น จึงมีการผลักดันเส้นผมเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดร่วงออกไป

ซึ่งบางคนประสบปัญหากับการหลุดร่วงของเส้นผมมากเกินไปเป็นสัญญาณของการสูญเสียเส้นผม การหลุดร่วงประเภทนี้เกิดขึ้นเมื่อวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมทางานผิดปกติมีระยะการพักตัวของวงจรสั้น หรือ ระยะการเจริญเติบโตเปลี่ยนไปเป็นระยะหยุดการเจริญเติบโต อันเนื่องมาจากสิ่งแวดล้อม เช่น ความเครียด มลภาวะ อายุที่เพิ่มมากขึ้นทาให้ฮอร์โมนเปลี่ยนไป เช่น ผู้หญิงมีการเปลี่ยนไปของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ที่ลดลง หรือ บางกรณีความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เชื่อมโยงกับฮอร์โมนอย่าง Androgenetic alopecia ร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนที่ผิดปกติไป โดยเฉพาะผู้ชายมีการสร้างฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเทอโรน (DHT; Dihydrotestosterone) เพิ่มขึ้น ทาให้เส้นผมหลุดร่วงเร็วมากกว่าการเจริญเติบโตจนเกิดสภาวะเส้นผมบางลงเรื่อย ๆ รากผมเริ่มฝ่อหายไป รูขุมขนค่อย ๆ เล็กลง และปิดลง และการหลุดร่วงของเส้นผมที่เกิดจากปัญหาระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติไปทาลายรากผมทาให้เกิดผมหลุดร่วง ซึ่งเรียกว่า Alopecia areata โดยทั้ง Alopecia areata และ Androgenetic alopecia หากไม่ทาการรักษา สามารถทาให้เกิดการสูญเสียเส้นผมอย่างถาวรได้

การหลุดร่วงของเส้นผมที่เกิดจากการใช้ Minoxidil นั้นเป็นสภาวะเพียงชั่วคราว แตกต่างจากการหลุดร่วงที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งการหลุดร่วงจากการใช้ Minoxidil เป็นการผลัดออกของเส้นผมที่อยู่ในระยะท้ายของวงจรการเจริญเติบโตหลังจากนั้นจะเกิดการงอกของเส้นผมที่มีความแข็งแรงมากขึ้น และหลุดร่วงได้ช้าลง

ทำไมการใช้ Minoxidil ถึงทำให้ผมร่วง?

เหตุผลที่ผมร่วงขณะใช้ Minoxidil มีดังนี้

  • การผลัดเซลล์ผมเก่า: Minoxidil จะช่วยกระตุ้นให้รากผมที่อยู่ในระยะพักตัวกลับมาเข้าสู่ระยะเจริญเติบโตอีกครั้ง ทาให้เส้นผมเก่าที่อ่อนแอ หรือตายแล้วหลุดร่วงออกไป เพื่อเปิดทางให้เส้นผมใหม่ที่แข็งแรงขึ้นมาแทนที่ ดังนั้นการที่ผมร่วงในช่วงแรก ๆ จึงเป็นสัญญาณที่ดี แสดงว่ายามีผลต่อรากผมแล้ว
  • วงจรชีวิตของเส้นผม: เส้นผมของเรามีวงจรชีวิตของตัวเอง ซึ่งประกอบด้วย 3 ระยะ คือ ระยะเจริญเติบโต (Anagen) ระยะหยุดการเจริญเติบโต (Catagen) และระยะพักตัว หรือรอหลุดร่วง (Telogen) การใช้ Minoxidil อาจทำให้เส้นผมที่กำลังจะหลุดร่วงอยู่แล้วหลุดออกมาก่อนกำหนดได้
  • ปฏิกิริยาของแต่ละบุคคล: ผลข้างเคียงของยาแต่ละชนิดในแต่ละคนจะแตกต่างกันไป บางคนอาจมีอาการผมร่วงมากหรือน้อยกว่าคนอื่นๆ

การหลุดร่วงของเส้นผมจาก Minoxidil เป็นอย่างไร?

ทำไมผมร่วงจาก Minoxidil แต่ละคนมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันในปัญหาเส้นผมหลุดร่วงจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Minoxidil อย่างไรก็ตาม การหลุดร่วงที่เกิดขึ้นเป็นเพียงสภาวะเพียงชั่วคราวในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งลักษณะทั่วไปของ Telogen effluvium อาจทาให้เส้นผมหลุดร่วงได้ตั้งแต่ 150 ถึง 300 เส้นต่อวัน

เส้นผมที่หลุดร่วงเป็นเส้นผมที่อยู่ในระยะพักตัว หรือในระยะที่เส้นผมกาลังหลุดร่วงอยู่ (Telogen) แต่ในกรณีนี้ Minoxidil จะเร่งกระบวนการหลุดร่วงให้เร็วขึ้น เพื่อเกิดการสร้างเส้นผมใหม่ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น และช่วยยืดระยะเวลาของระยะเจริญเติบโตของเส้นผม (Anagen) นอกจากนี้ telogen effluvium มักจะไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นผมที่มีอยู่เกินกว่าร้อยละ 50

ดังนั้น ไม่ว่าการหลุดร่วงนี้จะทำให้รู้สึกไม่สบายใจหรือวิตกกังวลมากแค่ไหน สิ่งที่ดีที่สุดที่สามารถทำได้ หากประสบปัญหากับการหลุดร่วงของเส้นผมจาก Minoxidil คือการมองในแง่ดีและอดทน ในที่สุดรูขุมขนก็จะกลับมาคงที่ และสามารถงอกเส้นผมใหม่ที่แข็งแรงได้

ระยะเวลาการร่วงของเส้นผมจากการใช้ Minoxidil 

การร่วงของเส้นผมจากการใช้ Minoxidil มักเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นการรักษา งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการร่วงผมอาจเริ่มขึ้น 2 ถึง 8 สัปดาห์ หลังจากเริ่มใช้ Minoxidil ซึ่งการร่วงนี้เป็นสัญญาณที่ดีว่า Minoxidil กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้เกิดการขยายหลอดเลือดไปยังรากผมของคุณ และทาให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมของคุณเริ่มต้นขึ้น

การหลุดร่วงของเส้นผมจาก Minoxidil จะงอกขึ้นมาใหม่หรือไม่? 

การหลุดร่วงของเส้นผมในช่วงที่ใช้ Minoxidil เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและจะงอกขึ้นมาใหม่เสมอ แม้ว่าการหลุดร่วงจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่หลายคนกลับตัดสินใจหยุดใช้ยาเร็วกว่าที่ควร ซึ่งไม่แนะนำให้หยุดใช้ยาในการรักษา (ยกเว้นในกรณีที่แพ้ยา) เรื่องนี้อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อเริ่มใช้ Minoxidil มันจะเริ่มฟื้นฟูและปรับปรุงวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมตามธรรมชาติทันที

หลังจากช่วงที่เส้นผมหลุดร่วงจากการใช้ Minoxidil สิ้นสุดลง ยานี้จะช่วยให้ระยะการเจริญเติบโตยาวนานขึ้นและระยะพักตัวสั้นลงมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเส้นผมงอกประมาณ 0.3 ถึง 0.5 นิ้ว (0.8 ถึง 1.3 เซนติเมตร) ต่อเดือน เพราะฉะนั้นเราจึงจะเห็นการเจริญเติบโตที่ชัดเจนจากการใช้ Minoxidil อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 เดือน

Minoxidil กระตุ้นการงอกของเส้นผมได้อย่างไร?

กลไกการทำงานของ Minoxidil มีอยู่ 3 ข้อหลัก ๆ คือ 

  • ขยายของหลอดเลือด: การขยายของหลอดเลือด: Minoxidil จะช่วยในการขยายหลอดเลือด ทาให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้รากผมได้รับสารอาหาร และออกซิเจนที่จาเป็นเพียงพอต่อการเจริญเติบโต
  • กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์รากผม: มีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้เซลล์รากผมแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้รากผมแข็งแรงขึ้นและสามารถสร้างเส้นผมใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ยืดอายุวงจรชีวิตของเส้นผม: Minoxidil จะช่วยยืดอายุของเส้นผมในระยะ Anagen
    (ระยะที่เส้นผมเจริญเติบโต) ทำให้เส้นผมอยู่กับเรานานขึ้นและลดการหลุดร่วง

ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ Minoxidil

  • เส้นผมหนาขึ้น: เส้นผมที่งอกใหม่จะมีขนาดใหญ่และหนาขึ้นกว่าเดิม
  • ผมร่วงลดลง: การหลุดร่วงของเส้นผมจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • ผมขึ้นใหม่: ในบริเวณที่ผมบางหรือหัวล้าน จะมีเส้นผมขึ้นใหม่

ข้อควรระวังในการใช้ Minoxidil

  • ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล: ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ Minoxidil อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหาผมร่วงและปัจจัยอื่น ๆ
  • ต้องใช้ต่อเนื่อง: ควรใช้อยากต่อเนื่อง: หากหยุดใช้ Minoxidil อัตราการงอกของเส้นผมจะกลับสู่สภาวะเดิม และการกลับมาของภาวะผมหลุดร่วงจะกลับมาเป็นปกติใน 4-6 เดือน

สรุป! ผมร่วงจาก Minoxidil ช่วยการกระตุ้นการงอกของเส้นผมใหม่ได้อย่างไร

ทำไมผมร่วงจาก Minoxidil เป็นเรื่องปกติและมักจะเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นการรักษาตั้งแต่ 2-4 สัปดาห์ตั้งแต่ 2-8 สัปดาห์ และถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าการรักษาเริ่มเข้าสู่การกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผม รวมถึงยังช่วยยืดระยะการเจริญเติบโตของเส้นผม ทาให้เส้นผมอยู่กับเรานานยิ่งขึ้น และลดการหลุดร่วงของเส้นผม อย่างไรก็ตามหากพบว่าเส้นผมมีการหลุดร่วงขณะเริ่มใช้ไม่ควรหยุดใช้ทันที และควรใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดการกลับสู่สภาวะเดิมของการหลุดร่วงของเส้นผมในช่วงก่อนเริ่มใช้งาน

เรื่องล่าสุด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด