
ร้อยไหมกรอบหน้า อันตรายไหม ยกกระชับให้หน้าเรียวได้
ร้อยไหมกรอบหน้า ยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับต้องการเพิ่มความมั่นใจให้ใบหน้า พร้อมวิธีการเตรียมตัวและวิธีดูแลหลังทำเพื่อผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
InnoGlitter ผลิตภัณฑ์ช่วยปรับสภาพผิวให้สว่างกระจ่างใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยสารสกัดอันทรงคุณค่า ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับคืนมาสดใสเปล่งปลั่ง ดูอ่อนกว่าวัยและบำรุงผิวที่เสื่อมสภาพให้แข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย ความหมองคล้ำ และการอักเสบของผิว พร้อมเติมเต็มผิวด้วยไฮยารูรอนเข้มข้นที่ทำงานได้อย่างทันทีเมื่อลงสู่ชั้นผิว
PDRN ; POlYDEOXYRIBO
NUCLEOTIDE เป็นสารสาคัญ
ระดับ DNA จากอสุจิปลา
แซวมอนที่มีงานวิจัยทาง
วิทยาศาสตร์รองรับโดยกระตุ้น
การสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่าง
คอลลาเจน อิลาสติน พร้อม
คุณสมบัติลดการอักเสบ
และการฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิว
เสริมสร้างความชุ่มชื่น ลดเลือน
ริ้วรอยแห่งวัย เเละปกป้องเซลล์
ผิวจากอนุมูลอิสระ
ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ
และมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสี
เมลานิน ช่วยลดความ
หมองคล้ำ เเละ จุดด่างดา
ที่เกิดจากแสงแดดให้ดูจางลง
พร้อมเผยความกระจ่างใส
บนใบหน้า
แหล่งสารสำคัญอย่าง
Growth Factors กว่า 100 ชนิด
ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของ
เซลล์ผิว เช่น HGF EGF TGF
FGF ช่วยกระตุ้นการทำงานแก่
เซลล์ผิวในสร้างหลอดเลือด
ที่หล่อเลี้ยงผิว เสริมสร้าง
กระบวนการสร้างเส้นใย
คอลลาเจนแก่เซลล์ผิวใหม่
บริเวณที่แนะนำ : ทั่วใบหน้า แก้ม หน้าผาก ตีนกา ใต้ตา ร่องแก้มลึก ร่องหน้าผาก
ผลลัพธ์หลังการใช้ : หน้ากระจ่างใส ผิวชุ่มชื้น และลดการอักเสบของผิวอย่างได้ผล
• ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำที่เกิดจากแสงแดดผิวหมองคล้ำ
• เติมความชุ่มชื้น แก้ไขปัญหาใบหน้าแห้งกร้านและริ้วรอย
• ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวให้สุขภาพดี ปกป้องผิวจากมลภาวะ
• บำรุงผิวให้แข็งแรง ลดการอักเสบผิว
InnoGlitter produced by an experienced laboratory room in Thailand, under the supervision of MD. Somnuk Siripanthong, Medical Consultant. Manufacturing laboratory room has been certified by standards; EN 12469:2000, ISO standard 14644-1. Manufacturing laboratory room achieved the international standard ISO/14644-1 : (ISO class 5) from bureau of laboratory quality standards, mepartment of medical and sciences and the ministry of public health of Thailand. InnoGlitter approved by the Food and Drug Administration (FDA) of Thailand.
Kojic acid inhibited both monophenolase and diphenolase activity of tyrosinase and reduce intercellular melanin content by inhibiting tyrosinase activity without cytotoxicity. Kojic acid was considered as the most suitable positive control among these four compounds¹
Inhibition of tyrosinase activity is the most effective way to reduce hyperpigmentation. Kojic acid inhibition of human tyrosinase better than Arbutin and Hydroquinone ²
Kojic acid to a gel containing 10% glycolic acid and 2% hydroquinone further improves melasma better than gel without Kojic acid.³
¹ Wang W, Gao Y, Wang W, Zhang J, Yin J, Le T, Xue J, Engelhardt UH, Jiang H. Kojic Acid Showed Consistent Inhibitory Activity on Tyrosinase from Mushroom and in Cultured B16F10 Cells Compared with Arbutins. Antioxidants (Basel), 2022 Mar 4;1 1(3):502. dol: 10.3390/antiox11030502. PMID: 35326152; PMCID: PMC8944748.
² Kolbe, L, Mann, T., Gerwat, W., Batzer, J., Ahihoit, S., Schemer, C.,… & Stäb, F. (2013). 4-n-butyresorcinol, a highly effective tyrosinase inhibitor for the topical treatment of hyperpigmentation. Joural of the European Academy of Dermatology and Venereology, 27, 19-23.
³ Joyce Teng Ee Lim; Frcpi; Fams (1999). Treatment of Melasma Using Kojic Acid in a Gel Containing Hydroquinone and Glycolic Acid., 25(4), 282-284, doi:10.1046.1524-4725.1999.08236 x
Skin Brightening and Renewal Treatment
Lipolytic & Fat Burning Treatment
Power of Brightening Solution
Skin Rejuvenation and Regeneration Treatment
Face & Body Lipolytic Serum
Enlightening Cocktail Treatment
Hair Strengthening and Revitalizing Solution
Hair Strengthening and Revitalizing Solution
Moisturizing Renewal Eye Serum
Moisturizing and Nourishing Skin Care
Revitalizing Treatment
Lipolysis Effext and Anti-Cellulite by Natural Extracts
ร้อยไหมกรอบหน้า ยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับต้องการเพิ่มความมั่นใจให้ใบหน้า พร้อมวิธีการเตรียมตัวและวิธีดูแลหลังทำเพื่อผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
ปัจจุบันการดูแลรูปร่างและใบหน้าให้ดูดีมีหลากหลายวิธี แต่หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ การทำหัตการเมโสแฟต เพราะเป็นวิธีที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุด ไม่ต้องผ่าตัด และใช้เวลาพักฟื้นน้อย ทำให้หลายคนสนใจวิธีนี้เพื่อปรับรูปหน้าและรูปร่างให้ได้สัดส่วนที่ต้องการ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ เมโสแฟต คืออะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร และควรระวังอะไรบ้าง เมโสแฟต คืออะไร เมโสแฟต คือการรักษาด้วยการใช้สารที่มีคุณสมบัติในการสลายไขมันเข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนังโดยตรง ซึ่ง Meso fat คือ วิธีการลดไขมันเฉพาะจุดที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยตัวยาจะทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกขับออกผ่านทางระบบขับถ่ายตามธรรมชาติ ทำให้บริเวณที่นั้นมีปริมาณไขมันลดลง ส่งผลให้รูปหน้าหรือรูปร่างได้สัดส่วนตามที่ต้องการ วิธีนี้จึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบไม่ต้องพักฟื้นนาน เมโสแฟต เหมาะสำหรับใครบ้าง หัตถการเมโสแฟต เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไขมันส่วนเกินในบริเวณต่าง ๆ ดังนี้ เมโสแฟต นิยมทำบริเวณไหนบ้าง โดยตำแหน่งยอดนิยมที่คนนิยมทำเมโสแฟต คือ นอกจากนี้ยังสามารถทำร่วมกับโบท็อกซ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับรูปหน้าและกระชับสัดส่วนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ข้อดีของการทำหัตการเมโสแฟต ข้อเสียของการทำหัตการเมโสแฟต วิธีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการเมโสแฟต วิธีการดูแลตัวเองหลังทำเมโสแฟต ข้อห้ามหลังทำแฟต คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำหัตการเมโสแฟต แฟตอันตรายไหม แฟต อันตรายไหม เป็นคำถามที่พบบ่อย โดยเมโสแฟตจะมีความปลอดภัย หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เช่น การใช้สเตียรอยด์ที่อาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อ หรือการใช้ไฮยาลูโรนิเดสในปริมาณมากที่อาจทำให้คอลลาเจนสลายตัว ส่งผลให้เกิดริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย ทำหัตถการแฟตมา กี่วันถึงจะเห็นผล การทำหัตถการเมโสแฟตจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกภายใน 5-7 วัน และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดหลังจาก 1-2 สัปดาห์ หากผลลัพธ์ยังไม่เป็นที่พอใจ สามารถกลับมาทำซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยทั่วไปอาจต้องทำ 4 – 5 ครั้ง และการทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น เมโสแฟต ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล เมโสแฟต คือการรักษาที่สามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก โดยจะสังเกตเห็นบริเวณที่ทำหัตการมาจะเริ่มยุบลงภายใน 5-7 วัน และเห็นผลชัดเจนหลัง 2-3 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่มีไขมันมากอาจต้องทำ 4-5 ครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เมโสแฟตอยู่ได้นานแค่ไหน เมโสแฟตอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหารของแต่ละคน โดยทั่วไปผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือน หากมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง และดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยยืดระยะเวลาของผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น การรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้ผลการรักษาคงอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น สรุปบทความ เมโสแฟต คืออีกทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการลดไขมันเฉพาะจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด
กระแสการดูแลสุขภาพผิวกำลังมาแรงในปัจจุบัน โดยเฉพาะการชะลอวัยและฟื้นฟูผิวให้กลับมามีชีวิตชีวา Biostimulator จึงเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการความงาม ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เต่งตึงและดูสุขภาพดี นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องศัลยกรรมเลย Biostimulator คืออะไร Biostimulator หรือที่รู้จักกันในชื่อ Collagen Biostimulator เป็นนวัตกรรมการฟื้นฟูผิวระดับลึกที่ทำงานด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนัง สารกระตุ้นคอลลาเจนจะทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยส่วนที่สูญเสียไปตามวัย ส่งผลให้ผิวกลับมาแน่นกระชับ มีความยืดหยุ่นดี อิ่มฟูและมีสุขภาพแข็งแรงจากภายใน หลักการทำงานของ Biostimulator Biostimulator มีกลไกการทำงานแตกต่างกันไปตามอนุภาคของพอลิเมอร์ต่างๆ ดังนี้ Poly-L-Lactic (PLLA), Poly-D, L-Lactic Acid (PDLLA), Calcium hydroxylapatite CaHa ขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ โดยส่วนมากจะเป็นพอลิเมอร์ที่มีโครงสร้างเข้ากันได้ดีกับผิวหนังมนุษย์ เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นใต้ผิว สารนี้จะทำงานร่วมกับเนื้อเยื่อบริเวณใบหน้า กระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังที่มีหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Fibroblast) ผลิตทั้งคอลลาเจน อิลาสตินและไฮยารูโรนิค ทำให้เกิดการสะสมของเส้นใยคอลลาเจนใหม่ เสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวในระยะยาว Biostimulator มียี่ห้ออะไรบ้าง ในปัจจุบันมี Biostimulator หลากหลายแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์และความงาม แต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนี้ Planiti Planiti คือ Biostimulator แบรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงจากเกาหลี โดดเด่นด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และมีส่วนประกอบสำคัญอย่าง PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในสู่ภายนอก ส่งผลให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับ เต่งตึง และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ การทำงานของ Planiti จะค่อย ๆ แสดงผลอย่างชัดเจนตามระยะเวลา ทำให้การเปลี่ยนแปลงของผิวดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งหรือล้นเกิน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กลับคืนมาอย่างนุ่มนวลและยั่งยืน Sculptra Sculptra เป็น Biostimulator ที่มีส่วนประกอบสำคัญคือ PLLA (Poly-L-Lactic acid) ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับ และใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ การทำงานของ Sculptra จะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การเปลี่ยนแปลงดูเป็นธรรมชาติ Radiesse Radiesse คือ Biostimulator ที่มีส่วนประกอบของ
2024 © Innovation Beauty Co.Ltd.