ไหมละลาย คืออะไร กี่วันถึงละลาย ยกกระชับให้ใบหน้าดูอ่อนเยาได้จริงไหม
ไหมละลาย คืออะไร กี่วันถึงละลาย ยกกระชับให้ใบหน้าดูอ่อนเยาได้จริงไหม

ไหมละลาย คืออะไร กี่วันถึงละลาย ยกกระชับให้ใบหน้าดูอ่อนเยาได้จริงไหม

ไหมละลาย นวัตกรรมยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด พร้อมแนะนำประเภทไหม วิธีดูแลและระยะเวลาการละลาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

สารบัญ

การยกกระชับใบหน้าไม่จำเป็นต้องพึ่งการผ่าตัดเสมอไป หนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ “ไหมละลาย” ทางเลือกการยกกระชับใบหน้าที่ไม่ต้องผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และฟื้นตัวเร็ว แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า หัตถการนี้ คืออะไร ต้องใช้เวลากี่วันกว่าจะละลาย วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยทุกประเด็น ในบทความนี้กัน 

ไหมละลาย คืออะไร 

ไหมละลาย คือนวัตกรรมทางการแพทย์ที่พัฒนามาจากไหมที่ใช้เย็บแผลผ่าตัด โดยมีคุณสมบัติพิเศษ คือสามารถละลายได้เองตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ (Absorbable Sutures) ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในวงการความงาม เพื่อยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ไหมชนิดนี้จะละลายตัวเองได้เฉพาะเมื่ออยู่ในร่างกายเท่านั้น ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ไม่พร้อมที่จะผ่าตัด นอกจากนี้ยังมีข้อดีในเรื่องราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์  

ไหมละลายมีกี่ประเภท 

หากถามว่าร้อยไหมมีกี่แบบ ในความเป็นจริงแล้ว ไหมละลายที่ใช้ในการยกกระชับใบหน้ามีหลายประเภท แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกันไป ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันออกไป ดังนี้ 

1. ไหมเรียบ (Mono Threads)

ไหมเรียบหรือ Mono Threads เป็นไหมละลายชนิดพื้นฐานที่มีลักษณะเรียบตลอดทั้งเส้น ไม่มีเงี่ยงหรือเกลียว เหมาะสำหรับการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ และเพิ่มความกระชับให้ผิว ข้อดีของไหมชนิดนี้ คือมีความเจ็บปวดน้อย ฟื้นตัวเร็วและมีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลลัพธ์ในการยกกระชับอาจไม่ชัดเจนเท่าไหมชนิดอื่น จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่มากนัก  

2. ไหมเงี่ยง (Barbed Threads)

ไหมเงี่ยงหรือไหมก้างปลา เป็นไหมที่มีลักษณะพิเศษ คือมีเงี่ยงคล้ายก้างปลาหรือตะขอเล็ก ๆ เรียงตัวอยู่บนเส้นไหม ทำให้สามารถยึดเกาะเนื้อเยื่อได้ดี หากสงสัยว่าร้อยไหมเจ็บไหม สำหรับไหมชนิดนี้อาจมีความเจ็บปวดมากกว่าไหมเรียบเล็กน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ชัดเจนกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก โดยเฉพาะบริเวณแก้มและผู้ที่ต้องการร้อยไหมเหนียง เพื่อยกกระชับให้กรอบหน้าชัดขึ้น

ไหมเงี่ยง

3. ไหมเกลียว (Screw Threads)

ไหมเกลียวมีลักษณะพิเศษเป็นไหม 1 – 2 เส้นที่พันกันเป็นเกลียว ทำให้มีความแข็งแรงมากขึ้น สามารถรับน้ำหนักของเนื้อเยื่อได้ดี เหมาะสำหรับการยกกระชับในบริเวณที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ เช่น การร้อยไหมจมูก หรือยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยมาก ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน แต่อาจมีโอกาสเกิดอาการบวมและช้ำมากกว่าไหมชนิดอื่น 

4. ไหมกรวย (Silhouette Soft)

ไหมกรวยหรือ Silhouette Soft เป็นไหมที่มีลักษณะเฉพาะ มีปมคล้ายกรวยเรียงตัวเป็นระยะบนเส้นไหม ต้องใช้เข็มขนาดใหญ่ในการร้อย ทำให้มีโอกาสเกิดอาการบวมและช้ำสูง แต่ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ชัดเจนมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก และต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการร้อยไหมชนิดนี้โดยเฉพาะ  

ทำหัตถการร้อยไหมละลายได้บริเวณไหนบ้าง 

การร้อยไหมละลายในปัจจุบันมีความหลากหลายและสามารถทำได้หลายบริเวณบนใบหน้า โดยแต่ละตำแหน่งจะมีเทคนิคและวิธีการร้อยที่แตกต่างกันไป เช่น 

  • ร้อยไหมกรอบหน้า เพื่อยกกระชับผิวหน้า และปรับรูปหน้าให้เรียวได้ โดยแพทย์จะร้อยไหมบริเวณแก้มและกรามทั้งสองข้าง เพื่อดึงผิวให้ตึงกระชับ ลดความหย่อนคล้อย และช่วยให้ใบหน้ามีมิติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น 
  • ร้อยไหมจมูก เป็นการใช้ไหมละลายเพื่อเสริมดั้งจมูกและปลายจมูกให้โด่งขึ้น โดยแพทย์จะร้อยไหมในแนวตั้งเพื่อยกสันจมูก และอาจร้อยในแนวขวางเพื่อเสริมปลายจมูก ช่วยให้จมูกมีมิติและสวยงามขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด แล้วทําจมูกไหมละลายกี่วันหลุด คำตอบคือไหมจะค่อย ๆ ละลายตัวภายในระยะเวลา 4 – 6 เดือน แต่ผลลัพธ์ความสวยจะอยู่ได้นานกว่านั้น เนื่องจากร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อมายึดเกาะบริเวณที่ร้อยไหม
  • ร้อยไหมยกหางตา หรือที่เรียกว่า Foxy Eyes เป็นการร้อยไหมบริเวณหางตาเพื่อยกชั้นตาให้สูงขึ้น ทำให้ดวงตาดูคมเฉี่ยวขึ้น แก้ไขปัญหาหนังตาตก และช่วยให้ดวงตาดูสดใสมีเสน่ห์มากขึ้น 
  • ร้อยไหมเหนียง เป็นการร้อยไหมบริเวณใต้คางและลำคอ เพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ลดความเหนียง และทำให้เส้นกรามชัดเจนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวใต้คางหย่อนคล้อย หรือต้องการกำจัดเหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัด

นอกจากนี้ยังมีการร้อยไหมคอลลาเจนเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนตัดสินใจทำ เนื่องจากบางบริเวณอาจไม่เหมาะกับการร้อยไหม 

ไหมละลายกี่วันละลาย

หลายคนสงสัยว่าไหมละลายใช้เวลากี่วัน โดยทั่วไปแล้วจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ เนื่องจากผิวหนังถูกยกขึ้น แต่อาจมีอาการบวมในช่วงแรก ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ 

  • ช่วง 3 – 4 วันแรกหลังทำ อาจมีอาการบวมมากขึ้น หากมีอาการบวมแดงมากผิดปกติ ควรรีบกลับไปพบแพทย์ทันที 
  • ช่วง 14 วันหลังทำ อาการบวมจะยุบลงเกือบหมด
  • ช่วง 1 เดือนหลังจากทำ จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด ได้ผลลัพธ์เป็นใบหน้าเรียวที่สวยได้รูป  
ร้อยไหมด้วยไหมละลาย

สรุปบทความ 

ไหมละลายเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ทั้งไหมเรียบ ไหมเงี่ยง ไหมเกลียวและไหมกรวย สามารถทำได้หลายบริเวณบนใบหน้า โดยจะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และเห็นผลชัดเจนที่สุดภายใน 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกทำพัตถการนี้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจและปลอดภัย  

เรื่องล่าสุด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด