ไหมน้ำ คืออะไร ? เหมาะกับใคร และดีอย่างไร ?
ไหมน้ำ คืออะไร ? เหมาะกับใคร และดีอย่างไร ?

ไหมน้ำ คืออะไร ? เหมาะกับใคร และดีอย่างไร ?

หลายท่านอาจคุ้นเคยกับคำว่า การร้อยไหม ซึ่งเป็นวิธีการรักษาด้านความงามที่ได้รับความนิยมและมีมาอย่างยาวนาน แต่สำหรับคำว่า ไหมน้ำ ซึ่งเริ่มเป็นที่รู้จักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจสงสัยว่า ไหมน้ำคืออะไร? เหมาะกับใคร? และมีข้อดีอย่างไร? วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักและไขข้อสงสัยเกี่ยวกับไหมน้ำกันอย่างละเอียด

สารบัญ

ไหมน้ำ คืออะไร ?

คำว่า ไหมน้ำ เป็นชื่อที่ถูกเรียกขึ้นมา เพื่อความเข้าใจง่าย และใช้จำกัดความผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีสารหลักที่ใช้ในการผลิตชนิดเดียวกับ เส้นไหม ที่ใช้ในการร้อยหน้า อย่างไรก็ตามไหมน้ำ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Collagen Biostimulator ซึ่งมีหน้าที่ ในการกระตุ้นกระบวนการสังเคราะห์เส้นใย คอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยเสริมความหนาแน่น และ ความแข็งแรงของโครงสร้างผิว

ด้วยคุณสมบัติในการกระตุ้น คอลลาเจน นี้ไหมน้ำจึงช่วยให้ผิวหน้าดูยืดหยุ่น กระชับ และ ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ตอบโจทย์สำหรับการฟื้นฟูผิว และ เสริมความงามในปัจจุบัน

ปัจจุบันมีไหมน้ำ กี่ชนิด ?

ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไหมน้ำ สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท โดยจัดหมวดหมู่ตาม องค์ประกอบหลัก ที่ใช้ในการผลิต ดังนี้

  1. ไหมน้ำชนิด Polydioxanone (PDO)  
  2. ไหมน้ำชนิด Polycaprolactone (PCL)
  3. ไหมน้ำชนิด Poly-L-Lactic acid (PLLA
  4. ไหมน้ำชนิด Poly-D-L-Lactic acid (PDLLA)

ไหมน้ำ อันตรายหรือเปล่า ?

หากพูดถึง ความปลอดภัยของไหมน้ำ ถือได้ว่ามีความปลอดภัยสูง เนื่องจาก สารที่นำมาใช้ในการผลิตไหมน้ำได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการว่า ไหมน้ำมีความปลอดภัยสูง โอกาสเกิดผลข้างเคียงต่ำ และ สามารถสลายตัวได้เองตามกระบวนการย่อยสลายในร่างกาย โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ภายในร่างกาย

ไหมน้ำอยู่ได้นานแค่ไหน ?

ผลลัพธ์หลังการฉีดไหมน้ำ จะเริ่มสังเกตได้ภายในประมาณ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับกระบวนการสร้างคอลลาเจนของแต่ละบุคคล ส่วนระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่นั้น ขึ้นอยู่กับ ชนิดของสาร ที่ใช้ในการผลิตไหมน้ำ โดยแต่ละประเภท จะมีความคงทนแตกต่างกันไป

  1. PDO จะอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
  2. PCL จะอยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
  3. PLLA, PDLLA จะอยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน

ไหมน้ำเหมาะกับใครบ้าง ?

ไหมน้ำมีคุณสมบัติเด่น ในการกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน ทำให้เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่มีปัญหา ดังต่อไปนี้

  1. ผู้ที่มีปัญหา ริ้วรอยแห่งวัย
  2. ผู้ที่มีปัญหา รูขุมขนกว้าง
  3. ผู้ที่มีปัญหา ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย
  4. ผู้ที่มีปัญหา ผิวที่ขาดความยืดหยุ่น

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และ สามารถแก้ไขปัญหาผิว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งคงสภาพผิวที่ดีไว้อย่างยาวนาน ควรปฏิบัติตาม คำแนะนำของผลิตภัณฑ์ อย่างเคร่งครัด และ รับการดูแลจาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัย และ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อดีของไหมน้ำ ?

  1. ผิวมีการกระตุ้นสร้าง คอลลาเจน มากขึ้น
  2. สามารถ ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่เหลือสารตกค้าง
  3. ผลลัพธ์ คงอยู่ได้นาน (ขึ้นอยู่กับชนิดของสาร)
  4. ความเสี่ยง ในการเกิดภูมิแพ้ ต่ำ      
  5. หลังฉีดไหมน้ำ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ข้อเสียของไหมน้ำ ?

  1. จำเป็นต้องใช้เวลา ในการสร้างคอลลาเจน ประมาณ 2-4 สัปดาห์
  2. อาจมีอาการ บวม ช้ำหลังการฉีด
  3. ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับประเภทผิว ของแต่ละบุคคล      
  4. ราคาค่อนข้างสูง

ผู้ที่ไม่แนะนำ ให้ฉีดไหมน้ำ ?

  1. ผู้ที่อายุ ต่ำกว่า 18 ปี
  2. สตรีที่ตั้งครรภ์ และ อยู่ในภาวะให้นมบุตร
  3. ผู้ที่มีแผลเปิด หรือ ภาวะติดเชื้อบริเวณที่จะทำการฉีด
  4. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรค เลือดออกง่าย    
  5. ผู้ที่มีประวัติแพ้สารที่ใช้ในการผลิตไหมน้ำ

สรุป

ไหมน้ำ ถือเป็น นวัตกรรมล้ำสมัย ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใน วงการแพทย์ความงาม โดยมีคุณสมบัติเด่นในการ กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน ใต้ชั้นผิว ช่วยเสริมความแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่น และ ปรับปรุงคุณภาพของผิวให้ดียิ่งขึ้น ผลลัพธ์ของการฉีดไหมน้ำ จะเริ่มสังเกตได้ชัดเจนหลังจาก 2-4 สัปดาห์ โดยสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน (ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ใช้) นอกจากนี้ ไหมน้ำยังได้รับการยอมรับใน ด้านความปลอดภัยสูง เนื่องจากสารที่ใช้ในการผลิต ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) จึงช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการ ได้อย่างเต็มที่

เรื่องล่าสุด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด