7 เจาะลึก! การร้อย ไหม PDO คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยมในวงการความงาม!
7 เจาะลึก! การร้อย ไหม PDO คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยมในวงการความงาม!

7 เจาะลึก! การร้อย ไหม PDO คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยมในวงการความงาม!

การร้อยไหม เป็นการร้อยเพื่อยกกระชับใบหน้า สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที หลังทำโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม เมื่อเทียบกับการทำหัตถการอื่น ๆ จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าได้หลากหลายตำแหน่ง และยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งในวงการแพทย์หรือความงามนิยมใช้เป็น ไหม PDO หรือ Polydioxanone โดยบทความนี้จะพาไปเจาะลึก และทำความเข้าใจกับคุณสมบัติอันโดดเด่นของร้อยไหม PDO (Polydioxanone)

สารบัญ

การร้อย ไหม PDO คืออะไร

การใช้เส้นไหมร้อยเข้าสู่ชั้นผิวหนังโดยใช้เข็มนำเส้นไหม เพื่อหวังผลลัพธ์ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้า แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก สันจมูกไม่ได้รูป รวมทั้งการกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวใสขึ้น เติมเต็มผิว ซึ่งไหม PDO (Polydioxanone)1 เป็นไหมที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ภายในระยะเวลา 6 เดือน แต่ผลลัพธ์จากการกระตุ้นคอลลาเจนยังคงอยู่ มีความยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ซึ่งเป็นที่นิยมในวงการศัลยกรรมมีการใช้ในการเย็บบาดแผลเพื่อสมานผิวบริเวณนั้น และผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก FDA ทั้งในและนอกประเทศ

การร้อย ไหม PDO สามารถช่วยแก้ปัญหาใบหน้าได้ยังไง

ไหม PDO ได้มีการพัฒนาปรับปรุงจากการใช้เป็นไหมเย็บแผลในการศัลยกรรมมาจนถึงการประยุกต์ใช้เพื่อร้อยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการร้อยปรับรูปหน้า โดยมีรูปแบบของไหมและการใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกันเพื่อให้ตอบโจทย์กับปัญหาและให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

ไหมเงี่ยงหรือไหมเส้นใหญ่ ใช้สำหรับยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้า แก้ปัญหาร่องแก้ม ยกคิ้ว ยกหางตา โดยเงี่ยงไหมจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ เงี่ยงที่เกิดจากการถูกเลเซอร์ตัด และเงี่ยงที่เกิดจากการหล่อขึ้นมา

ไหมเรียบ หรือไหมเส้นเล็ก ไม่มีเงี่ยง ใช้สำหรับการร้อยเพื่อช่วยเพิ่ม Volume บริเวณผิวหนังที่ยุบตัว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูผิว ช่วยให้ผิวแน่นเฟิร์ม ลดริ้วรอย

การร้อย ไหม PDO สามารถช่วยแก้ปัญหาใบหน้าได้ยังไง

ซึ่งการร้อยไหมแพทย์จะทำการร้อยเข้าไปที่ใต้ผิวหนังบริเวณ Deep Subcutaneous ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อไขมันชั้นลึกเรียบชั้น SMAS2 เพื่อให้เส้นไหมยึดเกาะกับเนื้อเยื่อดึงให้ผิวหน้ายกและเรียบขึ้น ช่วยแก้ปัญหาใบหน้า และผิวหน้าต่าง ๆ

โดยปกติหลายท่านอาจคิดว่าการร้อยไหมเป็นการร้อยเพื่อยกกระชับปรับรูปหน้าเพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วการร้อยไหมสามารถช่วยแก้ปัญหาใบหน้าได้หลากหลายตำแหน่ง ดังต่อไปนี้

ข้อดีของการร้อย ไหม PDO
  • ร้อยไหมปรับรูปหน้าเรียว ยกกระชับใบหน้า แก้มหย่อยคล้อย
  • ร้อยไหมยกมุมปาก แก้ริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณมุมปาก
  • ร้อยไหมจมูกแก้ปัญหาปลายและสันจมูกไม่ได้รูป
  • ร้อยไหมเหนียง แก้ปัญหาคางสองชั้น ปรับให้เห็นกรามคมชัดขึ้น
  • ร้อยไหมแก้ปัญหาโหนกแก้มต่ำ ร่องแก้มลึก
  • ร้อยไหมยกคิ้ว และหนังตาตก หางตาตก
  • ร้อยไหมกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวอิ่มฟู เต่งตึง ลดริ้วรอย ผิวใสขึ้น

ข้อดีของการร้อย ไหม PDO

  • การร้อยไหม PDO สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ 100% ภายในระยะเวลา 6 เดือน แต่ผลลัพธ์จากการกระตุ้นคอลลาเจนยังคงอยู่
  • การร้อยไหม PDO มีประวัติใช้งานในวงการแพทย์มาอย่างยาวนาน มีความปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง
  • กระตุ้นคอลลาเจนรอบเส้นไหม สร้างเส้นเลือดใหม่ เลือดไหลเวียนดี หน้าใสขึ้น
  • การร้อยไหม PDO มีความยืดหยุ่นที่เหมาะสม จึงสามารถปรับรูปหน้าในตำแหน่งที่ต้องการได้ ไม่เปราะขาดง่ายในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวใบหน้าเยอะ ทำให้เข้ากับโครงสร้างผิวได้ดี ไม่แข็งกระด้าง
  • การร้อยไหม PDO เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องเจ็บนัก และพักฟื้นนาน

การดูแลหลังการร้อยไหม

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคงผลลัพธ์ให้ยาวนาน

  • สามารถล้างหน้าได้ แต่ไม่ควรถูหน้าแรง เพราะอาจทำให้เส้นไหมเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง
  • งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา หรือกดนวดบริเวณที่ร้อยไหม
  • ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำได้ แต่การประคบแรง ๆ อาจทำให้ไหมเคลื่อนและไม่เกาะผิวได้ จึงควรประคบเท่าที่จำเป็น
  • นอนหงาย และหนุนหมอนสูงในช่วง 3-5 วันแรก
  • งดออกกำลังกายหนัก ๆ หรืออบซาวน่าอย่างน้อย 3 วัน
  • ไม่ควรอ้าปากกว้างเกินไป เนื่องจากไหมจะดึงรั้งผิวทำให้รู้สึกตึงหรือเสียวแปล๊ปบริเวณใบหน้าได้
  • งดการกดสิวในบริเวณที่เป็นแนวไหมในช่วง 2 สัปดาห์แรก
  • งดการเลเซอร์บริเวณใบหน้าในช่วง 2 สัปดาห์แรก
  • หลีกเลี่ยงการทำฟันในช่วง 1 เดือนหลังร้อยไหม
  • งดการทำ RF หรือ Thermage อย่างน้อย 1 เดือน
  • ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเพราะจะทำให้อาการบวมหายช้าลง
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

ผลข้างเคียงปกติจากการร้อยไหม

สามารถหายได้เอง ไม่จำเป็นต้องกลับมาพบแพทย์

  • มีอาการบวม แดง หรือเขียวช้ำ ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองใน 7-10 วัน
  • รู้สึกตึงบริเวณที่ร้อยไหม
  • อาจมีเลือดออกเล็กน้อยบริเวณที่แทงเข็มเข้าไป
  • หลังร้อยไหมทันทีอาจมีรอยบุ๋มหรือผิวไม่เรียบได้บ้าง โดยจะหายไปใน 2-3 สัปดาห์

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดอันตราย

ควรรีบกลับมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

  • ไหมขาด เกิดจากเส้นไหมที่ไม่มีคุณภาพ
  • ไหมทะลุ ปลายไหมโผล่ เกิดจากหมอที่ไม่มีประสบการณ์
  • ใบหน้าบวมขึ้นเรื่อยๆ มีอาการอักเสบ มีหนองบริเวณที่ร้อยไหม เกิดจากการติดเชื้อจากการร้อยไหมกับหมอหรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน

สรุป

การร้อยไหมจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการใช้เพื่อร้อยยกกระชับผิวหน้า และการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการศัลยกรรม รวดเร็ว ไม่มีแผลเป็นทิ้งไว้ ที่สำคัญเห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันทีหลังการร้อยไหม ดังนั้น K2 Plus3 จึงเป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก และเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่งไหม K2 Plus มีรูปแบบไหมที่หลากหลายเหมาะสมกับการใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาใบหน้าได้ตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพ มีชนิดของเส้นไหมให้เลือก รวมทั้งหัวเข็ม และ K2 Plus เป็นไหมละลายที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน FDA ทั้งในและนอกประเทศจึงรับรองความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน

เรื่องล่าสุด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด

ไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม PLAN INFINITY โดดเด่นกว่าตัวอื่น
Interesting Facts

เปิดเผย! อะไรทำให้ Biostimulator โปรแกรม “PLAN INFINITY”  โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว “PLAN INFINITY” กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความสนใจจากคลินิกและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก แต่สิ่งที่ทำให้ “PLAN INFINITY”

ทำไมการ ร้อยไหม ถึงเป็นหัตถการปลอดภัย และมั่นใจได้?
Interesting Facts

Why is thread lifting a safe and reliable procedure?

การร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี แพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา รวมทั้งประเทศไทย จากข้อจำกัดในอดีตของการปรับรูปหน้าและยกกระชับทำได้เพียงการผ่าตัดดึงหน้า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเละมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

Interesting Facts

5 วิธีลดรอยย่นระหว่างคิ้ว คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยก็เริ่มมาเยือนเราเรื่อย ๆ และยิ่งปรากฏให้เห็นเยอะขึ้น โดยเฉพาะรอยย่นระหว่างคิ้วที่ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังส่งผลต่อการแสดงออกทางสีหน้าที่อาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังหงุดหงิดหรือไม่พอใจอีกด้วย วันนี้ Innovation Beauty จะพาคุณไปทำความรู้จักกับริ้วรอยแห่งวัยตรงช่วงหว่างคิ้วว่า มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีการแก้ไขและรักษา เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้าของคุณ  รอยย่นระหว่างคิ้ว คืออะไร รอยย่นระหว่างคิ้วเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยจะปรากฏเป็นร่องลึกในแนวตั้งระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว การแสดงสีหน้าต่าง ๆ หรือแม้แต่การเพ่งสายตามองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไปรอยย่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังลึกจนกลายเป็นร่องถาวรที่มองเห็นได้แม้ในยามพักสีหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและอาจกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน  รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไรบ้าง รอยย่นระหว่างคิ้วไม่ได้เกิดมากจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกัน ทำให้ผิวบริเวณนี้เสื่อมสภาพและเกิดรอยย่นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้ 5 วิธีลดริ้วรอยและรอยย่นระหว่างคิ้ว วิธีการแก้ไขปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวไปจนถึงการหัตถารต่าง ๆ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดเลือนรอยย่นเหล่านี้ได้   1. ทาครีมบำรำรุงลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyarulonic,  Retinol, Peptide หรือ Vitamin C ก็ฟื้นฟูผิวเสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น   2. ร้อยไหมลดรอยย่นระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหารอยย่นระหว่างคิ้ว นั้นก็คือการร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นไหมจะเข้าไปยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านบทความเกี่ยวกับการร้อยไหมเพิ่มเติม ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? เพื่อตัวเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ 3. โบท็อกซ์  การฉีดโบท็อกซ์ลดรอยย่นระหว่างคิ้วนั้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้รอยย่นจางลงและป้องกันการเกิดรอยย่นใหม่ ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3 – 14 วันหลังจากทำและเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนเท่านั้น หากอยากรักษาความเรียบเนียนและดูกระชับไว้ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน   4. เลเซอร์ยกกระชับ เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่สามารถช่วยลดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Fractional ,IPL หรือ Pico Laser โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น รอยย่นดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   5. ศัลยกรรมผ่าตัด